ความต้องการทุเรียนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อเกษตรกรที่เพาะพันธุ์ต้นทุเรียนขาย สองสามีภรรยา ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด บอกว่า ขณะนี้ความต้องการทุเรียนมีสูงมาก
และมีความต้องการทุกพันธุ์ เช่น หมอนทอง ชะนี ก้านยาว กระดุม หลงลับแล มูซานคิ
โดยที่สวนเเห่งนี้ เขาเพาะพันธุ์ทุเรียนพร้อมปลูก มีทุกขนาดให้ลูกค้าเลือก ทั้งทุเรียนชำถุงขนาดเล็ก ราคาต้นละ 50-60 บาท ขนาด 100-120 บาท ขนาด 200-300 บาท และทุเรียนต้นใหญ่ใส่เข่งอายุประมาณ 2 ปี ขนาดต้นละ 1,000-1,500 บาท
โดยรวมแล้วภายในแปลงเพาะขยายพันธุ์ และแปลงพร้อมจำหน่ายมีพันธุ์ทุเรียนกว่า 200,000 ต้น
นายกิติพงษ์ บอกว่า ปีนี้ลูกค้าสั่งซื้อต้นพันธุ์ทุเรียนมากขึ้น กว่าปีก่อนๆ เนื่องจากชาวสวนมีการขยายพื้นที่การปลูกทุเรียน จากการตัดโค่นต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน หรือสวนผลไม้ชนิดอื่น และหันมาปลุกทุเรียนแทน
เหตุผลคือทุเรียนกำลังเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ จีน ไต้หวัน รวมทั้งคุณภาพของทุเรียนไทยยังดีกว่าคู่เเข่ง เกษตรกรมองว่านี่เป็นพืชที่มีอนาคต จึงหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่ได้เพียงสร้างรายได้ให้กับเจ้าของสวนเท่านั้น ความต้องการที่มากขนาดนี้ยังทำให้ชาวบ้านแรงงานในพื้นที่มีงานทำด้วย
หนึ่งในขั้นตอนการเพาะ คือการดูเเลให้ต้นเเข็งแรง บางพันธุ์ ต้องดูแลบำรุงรักษาให้เจริญเติบโต เช่น เมื่อครบ 5 เดือน ต้นโต จะต้องเปลี่ยนถุงชำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และเมื่อทุเรียนอายุครบ 1 ปี หรือมากกว่า จะเปลี่ยนถุงชำ เพื่อให้เป็นทางเลือกของลูกค้า ว่าต้องการต้นพันธุ์ทุเรียนขนาดไหน
ขั้นตอนเปลี่ยนถุง คือขั้นตอนที่ต้องจ้างเเรงงานอิสระ มารับเหมาเปลี่ยนถุงเริ่มตั้งแต่การเอาต้นทุเรียนออกจากถุงเก่ามาใส่ถุงใหม่ และกรอกดินผสมแกลบลงไปอัดถุงให้แน่น ป้องกันต้นทุเรียนโยกจนรากขาดทุเรียนเฉาตาย
โดยขั้นตอนนี้จะมีความสำคัญมากคนทำจะต้องรับผิดชอบผลงานของตนเอง โดยได้ค่าจ้างเปลี่ยนถุงต้นละ 4.50 บาท แต่ละคนจะทำได้วันละกว่า 200 ต้น เป็นเงินค่าจ้างวันละ 800-1,000 บาท แต่หากต้นทุเรียนเปลี่ยนถุงแล้วตาย จะต้องมาทำเพิ่มใหม่ภายหลัง