วันนี้ (31 พ.ค.2564) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี เผยแพร่คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 5228/2564 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) โดยมีรายละเอียดว่า
ตามที่จังหวัดปทุมธานี ได้มีประกาศมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 และคำสั่งปิดสถานที่ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติแล้วนั้น
โดยที่ปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ขึ้นใหม่ ในพื้นที่ อ.เมืองปทุมธานี พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เป็นแบบกลุ่มก้อน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
ดังนั้นเพื่อให้การกำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่และเป็นการป้องกันระงับยับยั้งการแพร่โรค
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 25 มี.ค.2563
และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 ม.ค.2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 29/2564 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2564 จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (สถานที่พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD- 19) ได้แก่
- ตลาดสดอินเตอร์มาร์ท ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี รวมถึงอาคารพาณิชย์โดยรอบ และร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-6 มิ.ย.2564
- ศูนย์พัฒนาศักยภาพคนไร้บ้านจังหวัดปทุมธานี (บ้านพูนสุข) ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-13 มิ.ย.2564
- แคมป์คนงานก่อสร้าง บริษัท กรณิศ ก่อสร้าง จำกัด ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-13 มิ.ย.2564
ทั้งนี้ ขอให้ ศปก.อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หน่วยงานและเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการร่วมกันดำเนินการทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่เสี่ยงดังกล่าว
และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทางของคำสั่งจังหวัดปทุมธานี และมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาคของโรคตามที่ทางราชการกำหนด
ข้อ 2 ให้จัดตั้งสถานที่ตามข้อ 1 เป็นสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) เพื่อกักกันในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ทั้งนี้ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ และห้ามมีการชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกันในพื้นที่ดังกล่าว
พร้อมทั้งห้ามบุคคลใด เข้าไปในพื้นที่ที่กำหนดหรือออกจากสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่
ข้อ 3 มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) ดังนี้
3.1 การดำเนินการจัดการสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) (1) ให้นายอำเภอเมืองปทุมธานี เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) (2) ให้เทศบาลเมืองปทุมธานี เทศบาลตำบลบางพูน และเทศบาลตำบลบ้านใหม่
เป็นผู้ดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามอำนาจหน้าที่ หลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
3.2 การดำเนินการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการบูรณาการร่วมกับโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หน่วยแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อดำเนินการตรวจและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงบริเวณพื้นที่ที่กำหนดเป็นสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) ตลอดจนการให้คำแนะนำในการเฝ้าระวังและป้องกันตนเอง
3.3 การดำเนินการกำหนดมาตรการควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อป้องกันและควบคุมโรค (Quarantine) มอบให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการและบูรณาการร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปทุมธานี
เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการ เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิตตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในบรรดาประกาศและคำสั่งที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ ให้มีผลบังคับใช้ใด้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งฉบับนี้
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 30 พ.ค.2564 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปทุมธานี