วันนี้ (4 มิ.ย.2564) นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมากว่า 60 คน ได้ประสานขอเดินทางกลับบ้านแล้ว เนื่องจากมีบ้านอยู่ตามแนวชายแดนในฝั่งเมียนมา ทำให้ขณะนี้เหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาประมาณ 380 คน ที่ยังขอรอดูสถานการณ์ เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ชั้นในของรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งไทยยังคงดูแลตามหลักมนุษยธรรม โดยให้การดูแลตามสมควร ขณะเดียวกันมีมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด โดยให้พักอยู่ในจุดที่อพยพเข้ามาเท่านั้น มีเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัยให้ใช้ภายในจุดอพยพ และคาดว่าวันนี้จะมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ขอเดินทางกลับประเทศเพิ่มเติม
สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ บีจีเอฟ และฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ กลุ่มอิสระ ของพันโทจ่อแต้ เงียบสงบเป็นเวลา 2 วันแล้ว ซึ่งผลจากการสู้รบของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีทหารเมียนมาเสียชีวิต 29 คน ทหารบีจีเอฟเสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.เมียวดี และ จ.กอกาเลก เต็มไปด้วยฝ่ายทหารเมียนมาที่ได้รับบาดเจ็บ
ด้านศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตาก ได้รายงานสถานการณ์การสู้รบ มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาและคนไทยบางส่วนจากประเทศเมียนมาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณพื้นที่ท่าข้ามธรรมชาติบ้านแม่โกนแกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 449 คน
ขณะที่ อ.พบพระ มีผู้หนีภัยฯ อพยพเข้ามาในพื้นที่ 2 จุดคือ จุดบริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ หมู่ที่ 2 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จำนวน 36 คน และจุดบริเวณบ้านแม่ออกฮู ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จำนวน 60 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาและได้เดินทางกลับประเทศเมียนมาไปบางส่วนแล้ว ล่าสุดมีผู้หนีภัยฯ ที่บ้านแม่โกนเกน จำนวน 389 คน
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดคาดว่าจะมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเดินทางกลับเพิ่มอีก และหากเกิดการสู้รบอีกครั้งทางจังหวัดก็มีขั้นตอนและมาตราการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว