วันนี้ (14 ก.ค.2564) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า จำเป็นต้องประชุมกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากได้เชิญประชาชนล่วงหน้า ซึ่งบางคนยอมรับนัดยาก หากไม่ประชุมวันนี้จะทำให้งานซึ่งเป็นความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข และชี้แจงว่าไม่ได้ขัดฝ่าฝืนคำสั่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหนังสือแจ้งดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือ
โดยเฉพาะวันนี้ กรรมาธิการฯจะสอบข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยเชื่อมั่นว่า จะมีการรื้อฟื้นคดีใหม่เนื่องจากมีพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติม โดยได้เชิญนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานมาชี้แจง เนื่องจากเคยเป็นอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อถามเรื่องภาษีนาฬิกาจำนวน 25 เรือนของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์
รวมถึงคดีของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คนหนึ่ง กรณีไม่คืนเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 400 ล้านบาท วันนี้ ได้เชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาติดตามเส้นทางการเงิน
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ชี้แจงแคมเปญมอบมาตรา 157 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีประชาชนได้รับผลกระทบทุกมิติจากการบริหารจัดการของรัฐบาลในช่วง COVID-19 โดยเชิญชวนให้ประชาชนฟ้องร้องเอาผิดต่อนายกฯ เหตุละเว้นการปฏิบัติหน้าที่สร้างความเดือดร้อนแก้ประชาชน ที่ประชาชนต้องใช้เงินตัวเองในการป้องกัน COVID-19 ทั้งเรื่องวัคซีน หน้ากากอนามัย และหากฟ้องร้อง 1 ล้านคดี พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะขึ้นชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกฟ้องมากที่สุดในโลก