วันนี้ (7 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์หลังจากกลุ่มเยาวชนปลดแอกประกาศยุติการชุมนุม เมื่อเวลาประมาณ 17.40 น. แต่ยังคงมีมวลชนปักหลักอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ อีกจำนวนหนึ่ง
เวลา 19.05 น. การจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เริ่มเปิดบางจุด แต่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนยังเสริมแนว และรถฉีดน้ำ บริเวณฝั่ง ถ.พญาไท หลังมวลชนส่วนหนึ่งยังจัดคาร์ม็อบบีบแตรดังสั่นใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส
เวลา 19.17 น. บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วน ปักหลักชุมนุมอยู่หลังการประกาศยุติการชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมกระชับพื้นที่
เวลา 19.20 น. รถไฟฟ้าบีทีเอส ยังเปิดวิ่งตามปกติ ขณะที่ด้านล่างยังมีการรวมตัวเป็นกลุ่มบีบแตรรถ ต่อเนื่อง และมีเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ดังขึ้นเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่เริ่มนำรถน้ำฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก
เวลา 19.31 น. เจ้าหน้าที่ประกาศขอให้ผู้ชุมนุมบางส่วน ลงจากสกายวอล์กแล้ว ขณะที่แนวหน้าบางส่วนยังตรึงพื้นที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ฝั่งราชวิถี ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการใช้กระสุนยางแล้ว แต่ยังมีเสียงบีบแตรดังต่อเนื่อง
เวลา 20.15 น. เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนเริ่มขยับแนวเข้ามาใกล้ ถ.พญาไท ด้านหลังจากบางส่วนไม่เลิกชุมนุม นำแผงเหล็กมากั้น ขว้างปากรวยยางและข้าวของใส่เจ้าหน้าที่ กระทั่งเริ่มยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่องอีกรอบ
เวลา 20.28 น. เจ้าหน้าที่เปิดการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทั้ง 4 ด้าน ขณะที่ประชาชนรีบเดินทางกลับ ก่อนถึงช่วงเคอร์ฟิวเวลา 21.00 น.
เวลา 20.35 น.เจ้าหน้าประกาศให้มวลชนออกจากพื้นที่แยกพญาไทแล้ว เนื่องจากใกล้เวลาเคอร์ฟิว แต่มวลชนบางส่วนยังไม่เดินทางกลับ ส่วนการจราจรถนนสายหลักเข้าอนุสาวรีย์ชัยกลับมาสัญจรตามปกติ
เวลา 21.00 น.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ยังเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ อาจมีความรุนแรงกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งก็ได้พยายามป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้น ขณะที่จับกุมผู้ชุมนุมได้หลายคน โดยกำลังตรวจสอบอยู่และมอบให้ตำรวจนครบาลเป็นผู้แถลงรายละเอียด
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงถึงภาพรวมการชุมนุมในวันนี้ (7 ส.ค.)พร้อมภาพถ่ายการชุมนุมบางส่วน มาประกอบด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ ไล่เรียงเหตุการณ์การชุมนุมวันนี้ ว่า ผู้ชุมุนุม มีประทัด พลุไฟ ประทัดยักษ์ มีการเปลี่ยนสถานที่ชุมนุม จนประกาศยุติการชุมุนม แต่ยังมีการชุมนุมต่อเนื่อง ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งนี้ตำรวจนครบาลจับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมคีมตัดลวด ได้ที่บริเวณถ.ข้าวสาร ดำเนินคดีข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร
และอีกกลุ่มจำนวน 6 คน พบพลุไฟ หนังสติ๊ก หัวน็อต ลูกแก้ว วิทยุสื่อสาร ภายในวัดมหรรณพารามวรวิหาร ซึ่งได้ตั้งข้อหาเดียวกัน พร้อมนำพลุส่งตรวจ หากพบว่ามีวัตถุระเบิดอยู่จะถูกตั้งข้อหาตามความผิดอีกส่วนหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยรถเครื่องเสียง 2 คัน และผู้ต้องหาที่พยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก 4 คน รวมจับกุมวันนี้ 12 คน
เป็นที่น่าเสียใจ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกผู้ชุมนุมทำร้ายร่างกาย โดยใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อต หัวน็อตฝังที่ลำคอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อยู่ระหว่างผ่าตัด
รองผบช.น.ระบุว่า เนื่องจากผู้ชุมนุมเชิญชวนไปยังสถานที่สำคัญ และมีการ นำภาพบุคคลสำคัญ ร่วมในการชุมนุมด้วยนั้น ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และกำชับให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทุกข้อหาอย่างเคร่งครัด