วันนี้ (12 ส.ค.2564) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภรตา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สรุปรวมภาพรวมเหตุการณ์ ชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "ทะลุฟ้า" บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถนนดินแดง เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.2564) โดยพบว่า มีตำรวจที่ปฎิบัติการได้รับบาดเจ็บ จำนวน 11 นาย ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการขว้างปาลูกแก้ว ประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปอง ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย รถยนต์ทางราชการจำนวน 8 คัน ป้อมจราจรจำนวน 12 แห่ง
จากการชุมนุมเมื่อวาน เกิดเหตุการณ์ระหว่างผู้ชุมนุมบางส่วนเผชิญหน้ากับตำรวจควบคุมฝูงชน และสามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ 17 คน ชาย 15 คน หญิง 2 คน จำนวนนี้มีเยาวชน 2 คน ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ,มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งยังมีผู้กระทำผิด ที่อยู่ระหว่างสืบสวนติดตาม
นอกจากนี้ กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค.มีมวลชนบางกลุ่มก่อเหตุเผาทำลายรถผู้ต้องขัง ของเจ้าหน้าที่ จากการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับจำนวน 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนให้การภาคเสธ อ้างอยู่ในที่เกิดเหตุการณ์แต่ไม่ได้กระทำให้เกิดเพลิงไหม้ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์, ร่วมกันร่วมตัวตั้งแต่10 คนขึ้นไป,ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ย้ำเตือนประชาชน กลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากพบมีการแพร่ภาพและโพสต์ข้อความในลักษณะเฟกนิวส์ จากการตรวจสอบ พบมีบุคคลโพสต์ข้อความ ระบุตำรวจนำประทัดยักษ์ใส่มือม็อบ สร้างความเข้าใจผิด จึงขอเตือนผู้ที่กระทำ ให้หยุดการกระทำเพราะข้อมูลเป็นเท็จ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท
ส่วนกรณีที่มีคนในพื้นที่ย่านแฟลตดินแดง ระบุได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ ผบช.น.ยืนยันว่า ตำรวจเน้นการปฎิบัติรักษาความสงบ แต่เนื่องจากมวลชนก่อเหตุทำลายและเผาทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเข้าระงับเหตุเกรงจะเกิดเหตุลุกลาม โดยได้กล่าวขออภัยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และจะพยายามปรับแผนปฎิบัติงาน ไม่ให้กระทบกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง