นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ปรากฎตัวภายหลังเอาชนะโควิด-19 เมื่อเดือน มี.ค. ไม่แปลกหากชัยชนะจากสมรภูมิ 82 วันจะถูกมองเป็นเรื่องราวสร้างขวัญกำลังใจ ของภารกิจต้านภัยโควิด-19 ในพื้นที่รับผิดชอบ
นำผู้ใต้บังคับบัญชาสู้ภัยโรคระบาด เกิดเป็นวาทกรรมที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ สั่งลุยช่วยชีวิตประชาชน
แต่ผลกระทบที่เหลือภายหลังรักษาตัวจากโควิด-19 กลายเป็นหนึ่งในอุปสรรคต่อการทำงาน โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร ที่ถือเป็นสมรภูมิสำคัญในวิกฤตโควิด-19
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง ในฐานะสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ เติบโตด้วยกันมาในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ยืนยันกับไทยพีบีเอสถึงข้อกังวลนี้
ผู้ว่าปูกับภรรยา ได้มาปรึกษาหารือว่าอยู่ที่นี่หนัก เหนื่อยมาก ร่างกายเพิ่งออกจาก รพ.มา ก็เกรงว่าจะรับงานหนัก ๆ ไม่ไหว
แม้ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ ยืนยันต้องการย้ายเพราะปัญหาสุขภาพ แต่การสื่อสารประเด็นนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เมื่อไม่ปรากฎชื่อนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ในโผโยกย้ายข้าราชการประจำปี
พร้อมตั้งประเด็นสงสัยตั้งแต่ปัญหาการเมืองภายในของบางจังหวัด การวัดจังหวัดใหญ่-จังหวัดเล็ก ที่ไม่ได้หมายถึงขนาดพื้นที่ ติดขัดปัญหาเจ้าของพื้นที่เดิม ที่ล้วนเป็นมิตรสหายร่วมงานคุ้นเคยกันดี ปิดท้ายด้วยประโยคที่ถูกนำไปตีความว่า เป็นการตัดพ้อของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครหรือไม่
"เขาเล่าให้ฟังว่าได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่ขัดข้อง จะดูแลให้ แล้วพอคำสั่งออกมาไม่มี ก็ทำให้เขารู้สึกน้อยใจว่าสิ่งที่ได้นำเสนอไป ทางผู้ใหญ่ของกระทรวงทำไมเพิกเฉย จังหวะประกอบกับการทำงานที่ทุ่มเท และเหน็ดเหนื่อย ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ก็เลยบรรยายออกมาในเฟซบุ๊กด้วยสาระอย่างที่เราเห็นกัน" นายสมศักดิ์ ระบุ
หนึ่งในประเด็นที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด คือการตั้งคำถามถึง "สีของสิงห์" ในแวดวงมหาดไทย เมื่อนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี
แต่เป็นที่รู้กันว่า สิงห์แดงธรรมศาสตร์ สิงห์ดำจุฬาลงกรณ์ วาทกรรมที่ใช้เรียกบุคลากรที่จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์จาก 2 มหาวิทยาลัย ครองสัดส่วนสูงที่สุดในงานของกระทรวงมหาดไทย
รศ.ตระกูล มีชัย ระบุว่า เป็นระบบอุปถัมภ์ที่อยู่กับสังคมไทยมาตลอด มีปัญหาการต่อสู้ระหว่างสิงห์ดำ-สิงห์แดงแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเกิดสิงห์ดำขึ้นครองอำนาจ และพออำนาจอยู่ในระยะเวลาที่ต่อเนื่องยาวนาน เวลาที่ขึ้นครองอำนาจนั้นก็จะอยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ ที่จะต้องดึงเอาคนที่ไว้ใจได้ขึ้นมา
รศ.ตระกูล มีชัย ระบุอีกว่า ขณะเดียวกันประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐมนตรีหรือฝ่ายการเมืองที่รับผิดชอบนั้น เห็นด้วยหรือไม่ ถามว่าเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนมีสีจากสถาบัน เป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่หลาย ๆ ปัจจัยรวมกันน่าจะทำให้ไม่ได้
มีปัจจัยอื่นที่นักรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชื่อว่าส่งผลต่อการไม่ได้โยกย้าย ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคาดหวัง
ปัญหานักการเมืองของแต่ละท้องที่ ความเหมาะสมของสถานที่ที่ต้องไปรับผิดชอบ สายสัมพันธ์จากสถาบันการศึกษา และอายุราชการที่เหลือ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ถูกผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ นำไปตั้งคำถาม และนี่อาจเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจลาออกจากราชการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์” ยื่นลาออกพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ระบุสู้ไม่ไหว สุขภาพไม่ดี ขอย้ายไม่ได้