วันนี้ (19 ส.ค.2564) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เรียกร้องทางการไทย เร่งสอบสวนกรณีที่มีการยิงในพื้นที่ชุมนุมในกรุงเทพฯ และทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ
โดยระบุว่า ทางการไทยต้องสอบสวนอย่างเร่งด่วน ต่อกรณีที่มีการยิงผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ ส่งผลให้เด็กคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังรายงานข่าวยืนยันว่า มีเด็ก 3 คนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ระหว่างการชุมนุมบริเวณหน้าโรงพัก เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยแม่ของเด็กอายุ 15 ปี บอกกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลว่า ลูกชายอยู่ในอาการโคม่า เนื่องจากถูกยิงบริเวณลำคอด้านซ้าย และกระสุนยังคงค้างอยู่บริเวณก้านสมอง 1 นัด และพบกระดูกต้นคอซีกที่ 1 และ 2 แตก และจากรายงานข่าวพบผู้ชุมนุมอีกหนึ่งคนอายุ 14 ปี ถูกยิงที่ไหล่ขวา ส่วนผู้ชุมนุมคนที่ 3 อายุ 16 ปี ถูกยิงเข้าที่เท้าขวา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้กระสุนจริง และไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นผู้ยิง
เอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายวิจัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า การใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ทางการไทยต้องสอบสวนอย่างเร่งด่วนต่อการยิงผู้ชุมนุมที่เป็นเด็กและเยาวชนทั้ง 3 คน รวมทั้งการใช้อาวุธปืนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายทุกกรณี
รัฐบาลไทยต้องสอบสวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตามการรายงานทั้งหมดที่มีข้อมูลว่า ตำรวจมีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และไม่จำเป็นต่อผู้ชุมนุมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ให้นำตัวผู้กระทำอันตรายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม หรือผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เข้ารับการไต่สวนและลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
พร้อมระบุอีกว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมได้ทำการชุมนุมตามท้องถนนในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ เพื่อแสดงความกังวลต่อแนวทางการจัดการกับสถานการณ์โรคโควิด-19 และปัญหาทางการเมืองอื่น ๆ ขณะที่ทางการได้เพิ่มการใช้กระสุนยาง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และแก๊สน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุม แม้ว่าการชุมนุมต่างๆ จะเป็นไปโดยสงบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อเยาวชน 14 ปี แจ้งความเหตุลูกถูกยิงข้าง สน.ดินแดง
พลุไฟปะทะแก๊สน้ำตา จุดเดิม "แยกดินแดง" รุกไล่กันวุ่น