หลายธุรกิจยังรอรัฐปลดล็อกเพิ่ม

ร้านให้เช่าชุดแต่งงานย่านมีนบุรี ที่ต้องปิดให้บริการมายาวถึง 1 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เจ้าของร้านให้เช่าชุดแต่งงาน บอกว่าได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มานานหลังจากที่รัฐมีข้อกำหนด
ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจขาดรายได้ และมีงานแต่งถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนดกว่า 200 งาน

ล่าสุดในพื้นที่สีแดงเข้มที่มีการผ่อนคลายจากรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน เป็น 25 คน แต่งานแต่งก็ไม่สามารถจัดได้ และอยากให้รัฐมีการผ่อนคลายเหมือนกิจการอื่นๆ เพื่อให้กลับมาทำมาหากินได้ เบื้องต้นอาจจะผ่อนคลายให้จัดได้ที่ 50 คน เพื่อให้การจัดงานแต่งงานเกิดขึ้นได้

เจ้าของร้าน บอกว่า ที่ผ่านมาร้านพยายามปรับตัว เช่น ไลฟ์ขายสินค้า เช่น สาหร่ายอบ,พริกทอด,ปลาร้า ควบคู่ไปกับการขายแบบเทเลเซล ให้ลูกค้าเก่า เพื่อให้พนักงานพอมีรายได้ในช่วงนี้ แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอที่จะดูแลพนักงานที่มีถึง 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานมีฝืมือที่มีอายุ

ไม่เพียงแต่ธุรกิจให้เช่าชุดแต่งงาน ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้เช่าสถานที่จัดงานเลี้ยง โรงแรม ร้านดอกไม้ นักดนตรี ผู้รับจัดงาน ร้านจำหน่ายการ์ดแต่งงาน และของชำร่วย ที่มีแรงงานจำนวนมากเกี่ยวข้อง

ผู้บริหารร้านจำหน่ายการ์ดแต่งงาน และของชำร่วย ย่านพาหุรัด ก็ยอมรับเช่นเดียวกันว่า ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากเดิมที่ลูกค้าเคยสั่งการ์ดแต่งงาน ของชำร่วยจำนวนมาก แต่ตอนนี้แทบไม่มีและเห็นว่ารัฐน่าจะผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้

ทางร้านพยายามปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ เช่น การทำเจลล้างมือจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก
การทำของชำร่วยในงานศพ และเชื่อว่าแม้ว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้นแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าธุรกิจจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ในแต่ละปีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการแต่งงานมีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี มีคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสมากกว่าปีละ 300,000 คู่ และกว่าร้อยละ 80 - 90 ของคู่รักใช้เม็ดเงินในการจัดงานแต่งงานเฉลี่ย 500,000-1,000,000 บาทต่อครั้ง