วันนี้(16 ก.ย.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า คพ.ได้รับเรื่องร้องเรียนการลักลอบทิ้งสารเคมีจำนวนมากในพื้นที่ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองตรวจมลพิษ และกองจัดการกากของเสียและสารอันตราย ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี เข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าที่ดินที่มีการลักลอบทิ้งสารเคมี มีพื้นที่ 24 ไร่ และใช้ทิ้งการทิ้งกากอุตสาหกรรม 3-4 ไร่
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น มีถังสารเคมีขนาด 200 ลิตร 300-400 ถัง มีลักษณะถูกบีบอัด จนกากอุตสาหกรรมหก เปรอะเปื้อนบริเวณโดยรอบ ทำให้ล่าสุดเทศบาลได้สั่งหยุดการให้น้ำกับประชาชน
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
พบสารก่อมะเร็ง-มีคุณสมบัติติดไฟ-ปนเปื้อนน้ำ
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า จากตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพของกากของเสีย 7 ตัวอย่าง พบ VOCs ระหว่าง 0-838 ppm ค่าความเป็นกดด่าง pH ระหว่าง 7-13 และพบว่าตัวอย่างบางส่วนสามารถลุกติดไฟได้ ซึ่งจากลักษณะทางกายภาพ บ่งชี้ได้ว่า เข้าข่ายเป็นกากของเสียอุตสาหกรรมประเภทของเสียอันตราย
นอกจากนี้ ยังเก็บตัวอย่างน้ำจากบริเวณ 5 ตัวอย่าง ครอบคลุมน้ำผิวดินจากบ่อน้ำที่เคยให้ประชาชนใช้ประโยชน์ 1 ตัวอย่าง มีค่า pH 8.25 - แอ่งน้ำข้างบ่อน้ำที่ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ 1 ตัวอย่าง มีค่า pH 7.72 - บ่อน้ำที่มีการทิ้งสารเคมี ที่ 1 จำนวน 1 ตัวอย่าง มีค่า pH 5.63 - บ่อน้ำที่มีน้ำซึมจากบ่อทิ้งสารเคมีที่ 1 จำนวน 1 ตัวอย่าง มีค่า pH 6.67-บ่อน้ำที่มีการทิ้งสารเคมีที่ 2 จำนวน 1 ตัวอย่าง มีค่า pH 5
การลักลอบทิ้งกากของเสียอันตราย เกิดจากค่าจ้างในการกำจัดมีราคาแพง และผู้รับจ้างกำจัดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งช่องว่างในระบบควบคุม ผู้ประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ และผู้รับจ้างในการกำจัดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ลงพื้นที่พรุ่งนี้ (17 ก.ย.)รู้ตัวคนลอบทิ้ง
นายอรรถพล กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) เวลา 10.00 น.จะลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ กอ.รมน. ตำรวจและบก.ปทส.อีกครั้ง เบื้องต้นทางคพ.ได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวัน ตรวจสอบกรณีดังกล่าวกับเจ้าพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคมไว้แล้ว
พร้อมทั้งขอเชิญชวนว่า หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ขอความร่วมมือให้แจ้งเบาะแสมา ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม(ศปก.พล.) จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบทิ้งสารเคมีและแหล่งกำเนิดมลพิษที่เกี่ยวข้อง