การขยับตัวของ YouTube ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเทคโนโลยีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ดำเนินมาตรการจริงจังมากพอในการควบคุมข่าวปลอม เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้สื่อสังคมออนไลน์แก้ปัญหาการกระจายข้อมูลผิดๆ จนทำให้คนรู้สึกไม่มั่นใจที่จะฉีดวัคซีน
คำสั่งนี้ครอบคลุมตั้งแต่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปจนถึงวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งวิดีโอที่มีเนื้อหาเชิงกล่าวหาว่าวัคซีนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว หรือให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะถูกลบออกจากเว็บไซต์ เช่น การให้ข้อมูลว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำให้มีบุตรยาก หรือวัคซีนป้องกันหัด คางทูมและหัดเยอรมัน ทำให้เกิดภาวะออทิซึม
ส่วนวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัว ความสำเร็จหรือความล้มเหลวจากการฉีดวัคซีนในอดีต จะไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ YouTube ยังสั่งลบช่องของนักเคลื่อนไหวต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 หลายคน เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล หนึ่งในนั้นคือ โจเซฟ เมอร์โคลา อายุรแพทย์ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ที่ทรงอิทธิพลที่สุดบนโลกออนไลน์
นโยบายของ YouTube ดูจะนำไปสู่การเปิดศึกวิวาทะกับรัสเซีย หลังจากช่องของสำนักข่าว RT ภาษาเยอรมันถูกลบไป โดยโฆษก YouTube ชี้แจงว่า ช่องดังกล่าวเผยแพร่เนื้อหาบางส่วนที่ขัดต่อนโยบายต่อต้านข้อมูลที่ผิดๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลรัสเซียขู่ว่าจะบล็อกเว็บไซต์ YouTube เพื่อตอบโต้ความพยายามปิดกั้นข้อมูลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว YouTube ลบวิดีโอมากกว่า 130,000 ชิ้น ด้วยเหตุผลว่าวิดีโอมีเนื้อหาละเมิดนโยบายเกี่ยวกับโควิด-19
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 หนีไม่พ้นบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ หนึ่งในนั้นคือ คริสเทน โลเวอรี แม่ลูก 4 ในแคลิฟอร์เนีย ที่ยึดแนวคิดไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ฉีดวัคซีนและไม่กลัวโควิด-19
เธอกลายเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีนอีกคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ด้วยวัยเพียง 40 ปี สำหรับแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีนที่แพร่กระจายไปทั่วโลก สะท้อนให้เห็นจากการเดินขบวนประท้วงในหลายประเทศ
การขยับตัวของ YouTube ในครั้งนี้ น่าจะเป็นแบบอย่างให้บริษัทอื่นๆ ในการควบคุมข่าวปลอมเช่นเดียวกัน และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่กระจายของข้อมูลข่าวปลอม น่ากังวลไม่แพ้การแพร่กระจายของโควิด-19