วันนี้ (1 ต.ค.2564) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงนามกฎกระทรวงเกี่ยวกับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการกำหนดอัตราค่าจ้างสำหรบรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ล่าสุด กรมการขนส่งทางบกเปิดให้บริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่สนใจยื่นขออนุญาตและขอการรับรองการให้บริการ ได้ตั้งแต่วันนี้ (1 ต.ค.) เป็นต้นไป
คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาความถูกต้องภายใน 30 วัน หากผ่านการพิจารณาคาดว่า ภายในเดือน พ.ย.นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันได้
เบื้องต้น มีผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน จำนวน 6 คน ให้ความสนใจยื่นเข้าร่วมโครงการ และมีรถป้ายดำกว่า 10,000 คัน ที่เตรียมเข้าร่วมแอปพลิเคชันนอกจากนี้ได้สั่งการให้ กรมการขนส่งทางบก ขยายการจัดทำแอปพลิเคชันไปยังรถจักรยานยนต์ด้วย
สำหรับ แอปพลิเคชันดังกล่าวผู้ให้บริการจะมีการจัดระบบการเรียกรถไว้ตามหมวดหมู่ แต่จะจัดให้รถแท็กซี่สาธารณะ อยู่ในอันดับแรก รองลงคือรถประเภทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามขั้นตอนเจ้าของแอปพลิเคชันจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตไปไปยัง กรมการขนส่งทางบก โดยจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด คือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท มีสถานที่ประกอบการในไทย มีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนการได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก
จากนั้น กรมการขนส่งทางบก จะใช้เวลาในการพิจารณาแอปพลิเคชันหากเป็นไปตามหลักเกณฑ์จะพิจารณาอนุญาตคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนเมื่อผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกแล้ว จึงจะสามารถเปิดรับสมัครผู้ที่ประสงค์จะประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้าเป็นสมาชิกได้
กำหนดเงื่อนไขหนึ่งคนต่อรถหนึ่งคัน และผู้ขับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะที่ถูกต้อง ผ่านการสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รถยนต์ที่ใช้จะต้องเป็นของตนเองมีอายุการใช้งานไม่เกิน 9 ปี มีหลักฐานการจัดให้มีประกันภัย
รถที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะได้รับเครื่องหมาย รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับแสดงที่กระจกกันลมหน้าและกระจกกันลมด้านหลัง จึงจะสามารถออกให้บริการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับอัตราค่าโดยสาร กำหนดให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากผู้ขับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่เกินร้อยละ 25 กรณีแท็กซี่มิเตอร์จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากผู้ขับรถ
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโดยสารจะอยู่ระหว่าง 40-150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ ส่วนอัตราค่าโดยสารตามระยะทางหรือค่าโดยสารระยะทางเกินกว่า 2 กม.แรก คิดกิโลเมตรละ 6-16 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ
ส่วนอัตราค่าโดยสารขณะรถจอดนิ่ง คิดอัตรา ไม่เกิน 2 บาท/นาที โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าเรียกรถได้ในอัตราไม่เกิน 20 บาท ซึ่งการออกระเบียบดังกล่าวจะทำให้ไม่มีการเอาเปรียบประชาชน มีราคาที่เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้ขับรถป้ายดำ รวมถึงไม่มีการตั้งราคาต่ำกว่าต้นทุน