เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงนามประกาศ ฉบับที่ 18/2564 เรื่อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลาก และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
จากการคาดหมายสภาพอากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 5 - 9 ต.ค.2564 ร่องมรสุมจะหาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้คาดการณ์ปริมาณฝนตก (ONE MAP) ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากของกรมทรัพยากรธรณี พบว่าในช่วงวันที่ 6 - 10 ต.ค.2564 มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอุทกภัย ดังนี้
1.เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม บริเวณในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน อ.บ้านลาด อ.ท่ายาง อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และ อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ท่าแซะ อ.ปะทิว จ.ชุมพร และ อ.เมืองระนอง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
2.เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นล้นทางระบายน้ำล้น ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอ่างเก็บน้ำปราณบุรี อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดตำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ 40 มม. ในช่วงเวลา 24 ชม. บริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงสูง
2.ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 หรือเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำ และเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ สำหรับคลองชายทะเลให้พร่องน้ำ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ
3.ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมหร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ ประกาศ ณ วันที่ 4 ต.ค.2564