คณะครูโรงเรียนบ้านกองม่องทะ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และจิตอาสา รวม 20 ชีวิต ต้องขี่จักรยานยนต์ลุยโคลน ผ่านเส้นทางที่มีน้ำขัง มีดินโคลน เกือบตลอดเส้นทาง จุดที่อันตรายที่สุดจุดหนึ่งคือ สะพานไม้ไผ่กว้างเพียงแค่พอรถผ่าน และยังโยกคลอน เสี่ยงจะหักพังลงกลางสายน้ำเชี่ยว แต่ทุกคนยังคงเดินทางต่อ
เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้ คือหมู่บ้านเกาะสะเดิ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสาขา อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร แต่เส้นทางกลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หลังฝนตกหนัก ไม่ต่างจากทางวิบาก รถบางคันเสียหายต้องหยุดซ่อม ใช้เวลาไปมากกว่า 4 ชั่วโมง
นมที่คณะครูพยายามขนส่งแม้จะเปียกน้ำอยู่บ้าง เพราะฝนตกระหว่างทาง แต่ทั้งหมด ถูกส่งให้กับนักเรียนจำนวน 55 คน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ใช้ดื่มระหว่างปิดภาคเรียน ตามสิทธิ์ที่พึงได้รับ ในโครงการนมโรงเรียน โดยผู้ปกครองนักเรียนยอมรับว่าหากครูไม่ขี่จักรยานยนต์ฝ่าสายฝนมาส่ง ลูก ๆ ของเขาคงไม่มีโอกาสได้ดื่ม
ทั้งนี้ นมโรงเรียนมีเวลาหมดอายุ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คณะครูและจิตอาสา ต้องเร่งนำไปส่งให้ถึงมือของนักเรียนโดยเร็วที่สุด แม้สภาพอากาศและเส้นทางจะไม่เอื้ออำนวย แต่คณะครูและจิตอาสาต่างยืนยัน เพียงได้เห็นเด็ก ๆ มีโอกาสได้ดื่มนม พวกเขาก็มีความสุขแล้ว