วันนี้ (19 ต.ค.2564) สหพันธ์การขนส่งเเห่งประเทศไทย นัดจัดกิจกรรม Truck Power เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้รัฐบาลเร่งเข้ามาดูแลเรื่องราคาน้ำมันแพง โดยรวมพลังรถบรรทุกบนถนนสายหลักทุกภาค วิ่งช้า ๆ ใน 6 เส้นทาง 7 จุด โดยไม่ปิดถนน ไม่เข้ากรุงเทพฯ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
เส้นทางที่ 1 ถนนพระรามสองเชื่อมต่อกาญจนาภิเษก (ไม่เข้าเขตกรุงเทพฯ)
- จุดที่1 เริ่มจาก อ.เมืองจ.ราชบุรี>แยกปากท่อ >จ.สมุทรสงคราม >จ.สมุทรสาคร>ถ.กาญจนาภิเษก (ด่านทางด่วนศรีรัช) > ถนนบรมราชชนนี > จ.นครปฐม และวนกลับที่ตั้ง
เส้นทางที่ 2️ ถนนบรมราชชนนี ถนนกาญจนาภิเษก
- จุดที่2 เริ่มจากสถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย5>ถนนกาญจนาภิเษก>ข้ามสะพานเดอะมอลล์บางแค > ยูเทิร์นพุทธมณฑลสาย6 และวนกลับที่ตั้ง
เส้นทางที่ 3️ ถนนสายเอเชียเชื่อมต่อบางปะอินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(ไม่เข้าเขตกรุงเทพฯ)
- จุดที่ 3 เริ่มจาก สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย > สี่แยกพยุหะคีรี > สราแยกชัยนาท >จุดบริการทางหลวง (บ้านตึก) > จุดบริการทางหลวง (พรหมบุรี)
- จุดที่ 4 เริ่มจาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี > อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
เส้นทางที่ 4️ ถนนบางนาตราด เชื่อมต่อกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก (บางพลี) จ.สมุทรปราการ (ไม่เข้าเขตกรุงเทพฯ)
- จุดที่ 5 เริ่มจาก ท่าสะอ้าน บางนา กม.46 > บางปะกง > บางพลี > บางเสาธง > บางพลีน้อย >บางโฉลง > บางนา-ตราด กม.8
เส้นทางที่ 5️ ถนนสุขุมวิท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เชื่อมต่อ ถนนหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์ แหลมฉบัง (ไม่เข้าเขตกรุงเทพฯ)
- จุดที่ 6 เริ่มจาก ท่าเรือแหลมฉบัง ประตู2 > อ.ศรีราชา > อ.อ่าวอุดม > วนกลับที่ตั้ง
เส้นทางที่ 6 ถนนรอบเมือง จ.อุบลราชธานี
- จุดที่ 7 เริ่มจาก ลานจอดรถ บจก.เนรมิต โลจิสติกส์ > สี่แยกกันทรลักษ์ > อ.วารินชําราบ >อ.เมือง จ.อุบลราชธานี > สี่แยกวนารมย์ > และวนกลับที่ตั้ง
เรียกร้องรัฐแก้ปัญหา 3 ข้อ
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้เข้าหารือกับผู้บริหาร กระทรวงพลังงาน โดยขอให้รัฐบาลดูแลราคาน้ำมันเพื่อการขนส่งหรือน้ำมันดีเซลให้กับผู้ประกอบการขนส่ง หลังราคาพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องจนทะลุลิตรละ 30 บาท และกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง ทุก 100 กิโลเมตร ต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ซึ่งเริ่มเห็นผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง ตั้งแต่ราคาน้ำมันเริ่มแตะระดับ 27 - 28 บาทต่อลิตร โดยสาหัสมานาน 6-7 เดือน
สำหรับข้อเรียกร้อง ขอให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 25 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปีหรือจนกว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงจะคลี่คลาย ลดภาษีสรรพสามิตลง 5 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 1 ปี ซึ่งปัจจุบันต่างประเทศไม่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันภาคขนส่ง ในขณะที่ไทยต้องเสียภาษีในอัตรา 5.80 บาทต่อลิตร และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเวลา 1 ปี
กระทรวงพลังงานขอเวลา 1 สัปดาห์
ที่ผ่านมายื่นหนังสือถึงรัฐบาลไปหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการเหลียวแล ซึ่งธุรกิจยิ่งกระทบหนักในช่วงโควิด-19 ระบาด ปัจจุบันมีรถในภาคธุรกิจขนส่งที่จดทะเบียนถูกต้องทั่วประเทศตั้งแต่ขนาด 4 ล้อจนถึง 22 ล้อ ราว 6,700,000 คัน ในส่วนนี้เป็นสมาชิกสหพันธ์การขนส่งประมาณ 400,000 คัน
เบื้องต้น กระทรวงพลังงานขอเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อนำเสนอปัญหานี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ยังไม่ใช่เวลาปรับภาษีสรรพสามิต
สำหรับข้อเรียกร้องให้ปรับภาษีสรรพสามิต นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากการจัดเก็บของภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ได้หวังรักษาระดับราคาพลังงาน แต่ต้องการมุ่งดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เเต่หากราคาน้ำมันดิบ ตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลอาจพิจารณามาตรการภาษีสรรพสามิตเพื่อบรรเทาภาระของประชาชนต่อไป