วันนี้ (20 ต.ค.2564) พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่า พล. อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติสนับสนุนการเปิดประเทศหลังวันที่ 1 พ.ย.นี้ อย่างปลอดภัย พร้อมให้เฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศ และให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ว่าจ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ พร้อมให้เฝ้าระวังโรคกลุ่มเสี่ยงเตรียมความพร้อมแพทย์
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องอุทกภัย วาตะภัย และดินโคลนถล่ม ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์
ขณะเดียวกัน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังระบุว่า ในส่วนของการเปิดประเทศ ต้องคำนึงถึงหลายมิติ ซึ่งทางการข่าวคาดการณ์ว่า ช่วงหลังฤดูฝน อาจพบปัญหาชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ซึ่งรัฐบาลทหารอาจใช้ความรุนแรง นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้เฝ้าระวังการหลบหนีเข้าเมืองทั้งทางบกและทางน้ำ ตามชายแดนตะวันตก โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติ ผู้หนีภัยจากการสู้รบทางการเมือง รวมถึงผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กองกำลังป้องกันชายแดนลาดตระเวนอย่างเข้มขึ้น รวมถึงบูรณาการการข่าวเชิงลึก แต่ต้องไม่ทิ้งชายแดนด้านตะวันออกที่ยังพบแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าประเทศอยู่ พร้อมย้ำว่าสมการ X-Y-Z หากความมั่นคงไม่นิ่ง ก็อย่าหวังว่าเศษฐกิจจะนิ่งได้
นองจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังโรฮิงญาที่ปัจจุบันพบความเชื่อมโยงคนไทยและเมียนมา รวมถึงพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องซึ่งที่ดำเนินการจับกุมได้มีพฤติการณ์ กักขังขู่กันโชกทรัพย์ และข่มขืน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เอาผิดทางอาญาอย่างเข้มงวด
ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง รายงานสถานการณ์การสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง และการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564
สระแก้วจับแรงงานกัมพูชา คืนเดียว 60 คน
ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังสกัดจับแรงงานชาวกัมพูชาชายหญิง 60 คน เด็ก 6 คน ขณะโดยสารมากับรถเก๋งและรถกระบะ 4 ประตู 5 คัน บริเวณถนนบายพาส ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยลักลอบเดินเท้า ผ่านช่องทางธรรมชาติ บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนมาต่อรถยนต์ เพื่อเข้าไปทำงานก่อสร้างและงานรับจ้างทั่วไปในประเทศไทย
โดยทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และก่อนหน้าเพียง 2 วัน ทหารสามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชาได้ถึง 104 คน บริเวณป่ายูคาลิปตัสแห่งหนึ่งใน อ.ตาพระยา ขณะรอมารับไปส่งที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง
แรงงานข้ามชายแดน เสียค่านายหน้า 2.5 หมื่น
ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ทหารจากกองกำลังสุรสีห์ จับกุมแรงงานชาวเมียนมา 5 คน ขณะเดินเท้าอยู่บริเวณชายป่าชายแดน บ้านห้วยน้ำขาว ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ผู้นำพาหลบหนีไปได้ โดยทั้งหมดเดินทางมาจาก เมืองพะโค และย่างกุ้ง เพื่อจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เสียค่านายหน้าคนละ 25,000 บาท
ขณะเดียวกัน ยังสามารถจับกุมชาวเมียนมาได้อีก 28 คน ขณะหลบซ่อนอยู่ชายป่า บ้านพุพญา ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เดินทางมาจากเมืองพะโค 24 คน ที่เหลือมาจากเมืองอื่น ๆ จุดหมายต้องการจะเดินทางไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร สมุทรปราการ และ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี