สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นักธุรกิจชาวอเมริกันซึ่งนำเข้าถุงมือยางสังเคราะห์ หรือถุงมือยางไนไตรล์เกรดการแพทย์จากบริษัทในประเทศไทย เพื่อขายต่อให้แก่ลูกค้าในสหรัฐฯ พบถุงมือยางมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 66 ล้านบาท เป็นถุงมือเก่าที่ใช้แล้ว บางส่วนถูกล้างทำความสะอาด มีคราบสกปรก คราบเลือด และปั๊มวันที่ย้อนไปเมื่อกว่า 2 ปีก่อน โดยบรรจุในกล่องตีตราสินค้าเลียนแบบบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ในไทย
ผู้นำเข้ารายดังกล่าวสั่งซื้อถุงมือยางเหล่านี้จากบริษัทแห่งหนึ่งในไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว และแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ รวมถึงหน่วยงานศุลกากรและป้องกันพรหมแดนสหรัฐฯ เมื่อช่วงเดือน ก.พ.และ มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงมีถุงมือยางที่ไม่ได้มาตรฐานจากไทยส่งเข้าไปยังสหรัฐฯ หลังจากนั้นอีกหลายสิบล้านชิ้นในช่วงหลายเดือนต่อมา ซึ่งบางส่วนส่งไปถึงสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.
ขณะที่การติดตามข้อมูลบันทึกการนำเข้า โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น พบว่า มีผู้จัดจำหน่ายรายอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ที่สั่งซื้อถุงมือยางจากบริษัทเดียวกันนี้ในไทย ระหว่างที่ COVID-19 ระบาดหนักในสหรัฐฯ รวมประมาณ 200 ล้านชิ้น นอกจากบางรายจะได้รับถุงมือยางไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีบางส่วนที่สั่งซื้อถุงมือยางสังเคราะห์เกรดการแพทย์ กลับได้รับถุงมือยางธรรมชาติแทน
นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทยบุกตรวจสอบโรงงานของบริษัทผู้ส่งออกถุงมือไม่ได้มาตรฐานดังกล่าวย่านชานเมืองของกรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว และยังติดตามตรวจสอบโรงงานอีกหลายแห่ง รวมมากกว่า 10 ครั้งในอีกหลายเดือนต่อมา แต่ผู้ประกอบการดังกล่าวย้ายโรงงานอย่างต่อเนื่อง และยังพบการใช้ชื่อบริษัทอื่นที่มีใบอนุญาตนำเข้าถุงมือจากเวียดนามร่วมด้วย ซึ่ง อย.ไทยสันนิษฐานว่า มีเครือข่ายบุคคลและบริษัทจำนวนหนึ่งอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ในไทย