วันนี้ (2 พ.ย.2564) สำนักข่าว CNN รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ขณะนี้มากกว่า 100 ประเทศ ซึ่งมีป่ารวมกันมากกว่าร้อยละ 85 ของทั้งโลก ให้คำมั่นว่าจะร่วมกันยุติการทำลายป่าและฟื้นฟูป่าไม้ที่ถูกทำลายภายในปี 2573
ข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากป่าไม้ที่ถูกทำลายปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 11 ของทั้งโลก
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุเรื่องการตั้งกองทุนสาธารณะ มูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.6 แสนล้านบาท เพื่อปกป้องและฟื้นฟูป่าไม้ รวมถึงภาคเอกชนที่ประกาศจะยุติการลงทุนในโครงการที่นำไปสู่การทำลายป่า
ประท้วงเรียกร้องผู้นำโลกจริงจังแก้ปัญหาโลกร้อน
ออกซ์แฟม ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร จัดกิจกรรมด้วยการแต่งกายเลียนแบบผู้นำโลก 9 ประเทศ ร่วมกันบรรเลงดนตรีวงปี่สกอต ที่มีป้ายข้อความว่าคุยโตโอ้อวด
ผู้แทนของออกซ์แฟม ระบุว่า ผู้นำเหล่านี้แทนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและทำให้โลกปลอดภัย พวกเขากลับมีแต่คำพูดที่เกินความเป็นจริงและคำสัญญาที่ว่างเปล่า
เช่นเดียวกับ เกรตา ทุนเบิร์ก เยาวชนนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมจากสวีเดน ปราศรัยด้านนอกสถานที่จัดประชุม COP26 ว่า ในที่ประชุมมีแต่นักการเมืองและผู้ทรงอำนาจ ที่แกล้งทำเป็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโลกร้อน แต่การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นจากที่ประชุมนี้
ขณะที่เยาวชนจากประเทศเยอรมนี ร่วมมือกับกรีนพีซ จัดการประท้วงด้วยการห้อยตัวลงมาจากสะพานในเมืองกลาสโกว์ พร้อมแขวนป้ายที่มีข้อความว่า มนุษยชาติกำลังล้มเหลว ส่วนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ของกรีนพีซ เดินทางถึงเมืองกลาสโกว์แล้ว พร้อมด้วยเยาวชนจาก 4 ประเทศ ที่ร่วมกันส่งข้อความถึงบรรดาผู้นำโลกยุติการทำให้โลกล้มเหลว
อ่านข่าวอื่นๆ
นายกฯ ประกาศต่อ COP26 ไทยพร้อมยกระดับแก้วิกฤตภูมิอากาศ
"อินเดีย" ตั้งเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2070
ประชุม COP26 กลุ่มเคลื่อนไหวร้องผู้นำโลกแก้วิกฤตสภาพอากาศ