วันนี้ (5 พ.ย.2564) กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะปรับเปลี่ยนมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2564 เป็นต้นไป มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
หลักฐานฉีดวัคซีน
ผู้โดยสารที่ไม่ได้มีสัญชาติอเมริกัน หรือมีถิ่นพำนักในสหรัฐฯ ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วนก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยวัคซีนที่สหรัฐฯ ยอมรับประกอบด้วย วัคซีนที่ อย.สหรัฐฯ อนุมัติหรืออนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ และวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุญาตให้ใช้กรณีฉุกเฉิน ได้แก่ วัคซีนแบบ 1 โดส คือ Janssen/J&J และวัคซีนแบบ 2 โดส คือ Pfizer-BioNTech, Moderna, AstraZeneca, Covishield, BIBP/Sinopharm และ Sinovac
ผู้ที่ถือว่าฉีดวัคซีนครบถ้วน จะต้องได้รับวัคซีนแบบ 1 โดสหรือ 2 โดสเข็มสุดท้าย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไปก่อนวันเดินทาง ทั้งนี้การฉีดวัคซีนแบบ 2 โดสสามารถสลับประเภทของวัคซีนได้
อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนดังกล่าว ไม่รวมถึงผู้มีสัญชาติอเมริกัน ผู้มีถิ่นพำนักในสหรัฐฯ และลูกเรือ ตลอดจนมีข้อยกเว้นสำหรับกลุ่มคนบางประเภท เช่น ผู้เดินทางด้วยวัตถุประสงค์ทางการทูตและราชการ ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถรับวัคซีน ผู้เดินทางจากประเทศที่ขาดแคลนวัคซีนและมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าร้อยละ 10 ตามรายชื่อที่สหรัฐฯ กำหนด ด้วยการตรวจลงตราประเภทที่ไม่ใช่ B1/B2 หรือการเดินทางกรณีฉุกเฉินที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นต้น
ผลตรวจโควิด-19
ผู้โดยสารทุกสัญชาติที่อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ต้องแสดงหลักฐาน ดังนี้ 1. ผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยผู้ได้รับวัคซีนครบโดสต้องตรวจภายใน 3 วันก่อนวันเดินทาง และผู้ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดสต้องตรวจภายใน 1 วัน ก่อนวันเดินทาง โดยต้องเป็นผลตรวจแบบ viral test ประกอบด้วย การตรวจแบบ Nucleic Acid Amplification (NAAT) test รวมถึงแบบ RT-PCR หรือการตรวจแบบ Antigen Test ซึ่งได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศต้นทาง
หากใช้ชุดตรวจด้วยตนเอง (self-test kit) จะต้องเป็นชุดตรวจที่ได้รับอนุญาตจาก อย.สหรัฐฯ และมีแพทย์ของผู้ผลิตชุดตรวจร่วมกระบวนการตรวจทางไกล (telehealth) และออกหลักฐานตามข้อกำหนดของ CDC สหรัฐฯ
หรือ 2. หลักฐานการติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 90 วันก่อนการเดินทาง และหลักฐานการได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้เดินทางได้เนื่องจากหายแล้ว สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารจะถูกส่งไปยัง CDC เพื่อตรวจสอบและติดตามผู้โดยสารที่มีโอกาสติดเชื้อหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ