วันนี้ (20 พ.ย.2564) ออสเตรียกำลังจะกลายเป็นประเทศแรกของยุโรปตะวันตก ที่กลับมาบังคับใช้มาตรการปิดเมืองแบบเต็มรูปแบบทั่วประเทศอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการใช้มาตรการดังกล่าวจำกัดเฉพาะกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19
นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ระบุว่ากลุ่มคนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน กำลังทำร้ายระบบสาธารณสุข และรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในการจูงใจให้คนกลุ่มนี้ให้หันมาฉีดวัคซีนได้ ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 5
โดยออสเตรียจะใช้มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.2564 เป็นต้นไป เป็นเวลา 10 วัน รวมทั้งเตรียมใช้มาตรการบังคับฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565
การตัดสินใจในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติอีก 15,809 คน จากประชากรทั้งประเทศไม่ถึง 9 ล้านคน ขณะที่มีชาวออสเตรียประมาณ 2 ใน 3 ได้รับวัคซีนครบ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในชาติยุโรป ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด
เยอรมนีชี้โควิดวิกฤต อาจต้องปิดเมือง
รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี ระบุว่าเยอรมนีอยู่ในสถานการณ์ที่อาจจะต้องมีการบังคับใช้มาตรการปิดเมืองกับทุกคน รวมทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หลังจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 50,000 คน ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว
ขณะที่หัวหน้าสถาบันด้านการวิจัยสาธารณสุขเยอรมนี ระบุว่าเยอรมนีกำลังเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยโรงพยาบาลในบางพื้นที่ของประเทศ ไม่สามารถเปิดให้การรักษาตามปกติได้แล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเร่งออกมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโดยเร็ว
ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นบาวาเรีย ประกาศยกเลิกการเปิดตลาดคริสต์มาสทั้งหมดในปีนี้ พร้อมทั้งสั่งปิดบาร์และสถานบันเทิงต่าง ๆ เป็นเวลา 3 สัปดาห์
แพทย์เบลเยียมวอนรัฐ ยกระดับคุมเข้มสกัดโควิด-19
แพทย์ในเมืองอันตเวิร์ป ออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งพบว่าโรงพยาบาลหลายแห่ง อาจเสี่ยงต้องใช้มาตรการคัดกรองเพื่อเลือกรับคนไข้เข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาล เนื่องจากมีผู้ป่วยโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับมาตรการคุมเข้ม เนื่องจากมองว่ามาตรการเดิมที่บังคับใช้ไม่เพียงพอต่อการควบคุมสถานการณ์
ที่มา : Reuters , AFP , AP , BBC