กรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบกลุ่มนายทุนเข้าไปลอบตัดไม้มะค่าโมงยักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่สาครฝั่งขวา จ.น่าน วันนี้ (22 พ.ย.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้มะค่าโมงยักษ์ 2 ต้น ไม้หวงห้ามในเขตป่าสวนแห่งชาติแม่สาครฝั่งขวา จ.น่าน
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ให้เร่งติดตามหากลุ่มนายทุนครั้งนี้ เนื่องจากไม้มะค่าโมงยักษ์ที่ถูกตัดครั้งนี้มีขนาดความโตถึง 700 เซนติเมตร อยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม และถูกตัดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ภาพ:กรมป่าไม้
สั่งย้ายหน.หน่วยป้องกัน-ตรึงจุดตัดห่วงถูกปล้นไม้
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า การตรวจยึดครั้งนี้อยู่ในพื้นที่รวม 2 จุดแรกบริเวณริมลำห้วยแก้ว พบรถแบคโฮ 1 คันอยู่ในที่เกิดเหตุใกล้กับต้นไม้มะค่าโมงมีร่องรอยทำการขุดรากถอนโคนต้นไม้ ใช้เลื่อยยนต์ตัดทอนไม้ท่อน 31 ท่อน ปริมาตร 29.86 ลบ.ม.
ส่วนจุดที่ 2 ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถแบคโฮ 1 คัน อยู่ในที่เกิดเหตุในลำห้วยใกล้กับต้นไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นล้มและตัดทอนเป็นท่อนจำนวน 4 ท่อน ปริมาตร 1.79 ลบ.ม. รวมไม้มะค่าโมง 35 ท่อน ปริมาตร 55.18 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหาย1,931,300 บาท โดยมอบให้นายสมชาย สุภาพ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.14 (แม่สาคร) เป็นผู้ร้องทุกษ์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เวียงสา จ.น่าน
เบื้องต้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรึงพื้นที่รักษาไม้ของกลาง เพื่อป้องกันการกลับมาชิงไม้ พร้อมทั้งสั่งย้ายหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นน.14 (แม่สาคร) เพื่อตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
ภาพ:กรมป่าไม้
ไม้มะค่าโมงยักษ์มูลค่า 10 ล้านตลาดเฟอร์นิเจอร์
นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ไม้มะค่าโมงยักษ์ที่ถูกตัดออกจากป่าสงวน ถือว่าต้นไม้ยักษ์ทั้ง 2 ต้นเป็นสัญลักษณ์ของป่าสงวน ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายมาก เพราะเป็นไม้ขนาดใหญ่มีเส้นรอบวงถึง 7 เมตร ซึ่งของกลางที่ถูกทิ้งไว้ในป่าตอนนี้ยังต้องจัดทีมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เพราะห่วงจะมีการเข้ามาปล้นไม้และของกลางรถแบคโฮ 2 คัน
ตลาดไม้ขนาดใหญ่แบบนี้กำลังเป็นที่ต้องการของพ่อค้าไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ ถ้าไม้หลุดออกไปจะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาท ขณะนี้สั่งการให้ทุกแห่งสำรวจไม้ขนาดใหญ่ ป้องกันลักลอบมาเข้ามาตัด
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ต้องขอบคุณชาวบ้านที่ช่วยเป็นหูเป็นตา หลังจากเห็นความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น เนื่องจากเห็นมีการขนรถแบคโฮเข้ามาในพื้นที่ และได้ยินเสียงเลื่อย จึงแจ้งหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ แต่ไม่ทันแล้วเพราะไม้ใหญ่ทั้ง 2 ต้นถูกตัดเป็นท่อนๆ และคนขับรถแบคโฮหนีไปได้
ชาวบ้านแจ้งเข้ามาหลังเห็นความผิดปกติและได้ยินเสียงเลื่อยไม้ แต่พอเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เข้าไปคนขับรถเลยวิ่งหนีไป ขณะนี้เร่งแกะรอยจากหลักฐาน และสืบหาขบวนการลอบตัดไม้พร้อมส่งทึมเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงเลื่อยไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางที่เคยมีประวัติโยงลอบตัดไม้