ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายขึ้นและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดีขึ้น ล้วนเป็นคุณสมบัติของเชื้อโควิด-19 ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่อยากให้เกิดขึ้นพร้อมกัน สายพันธุ์ B.1.1.529 ที่พบครั้งแรกในบอตสวานาทางตอนใต้ของแอฟริกา อาจมีคุณสมบัติน่ากังวลทั้ง 2 อย่าง
ขณะที่ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหราชอาณาจักรแสดงความกังวลเกี่ยวกับการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ผู้อำนวยการศูนย์รับมือโรคระบาดและนวัตกรรมแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า สายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ผิดปกติและแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น เฉพาะโปรตีนหนามพบการกลายพันธุ์ไม่ต่ำกว่า 30 ตำแหน่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกข้อมูลไว้
ส่วนเชื้อสายพันธุ์หลักของโลกอย่างเดลตากลายพันธุ์บริเวณโปรตีนหนาม 13-17 ตำแหน่งเท่านั้น การกลายพันธุ์บริเวณนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากโปรตีนหนามถือเป็นกุญแจในการเข้าสู่เซลล์ โดยเชื้อสายพันธุ์นี้อาจแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายขึ้นและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดีขึ้นอีกด้วย
การกลายพันธุ์อาจจะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไป แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อสายพันธุ์นี้ยังไม่มากนักก็ตาม เชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้อาจเป็นสาเหตุทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในแอฟริกาใต้สูงกว่า 2,400 คน ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ B.1.1.529 ในแอฟริกาใต้มากกว่า 100 คน บอตสวานา 4 คน ฮ่องกง 2 คน และอิสราเอลอีก 1 คน
แม้ว่าการระบาดส่วนใหญ่ในแอฟริกาใต้เกิดขึ้นในจังหวัดเดียว แต่มีแนวโน้มจะแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ฮ่องกงพบเชื้อจากผู้เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ และอิสราเอลพบเชื้อจากผู้เดินทางกลับจากมาลาวี สิ่งที่น่าสนใจ คือ ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในฮ่องกงและอิสราเอล ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้ว
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า การเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายของประชากรจะช่วยลดการแพร่กระจายของสายพันธุ์นี้ กฎเกณฑ์ของประเทศไทย โดยเฉพาะ Test To go สำหรับผู้เดินทางมาจากประเทศในกลุ่มแอฟริกาใต้ จะต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันการหลุดรอดของสายพันธุ์นี้เข้าสู่ไทย
แม้ว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเชื้อจะรุนแรงขึ้นหรือไม่แต่คงต้องจับตามองการศึกษาอย่างใกล้ชิด