วันนี้ (16 ธ.ค.2564) ThaiPBS World สัมภาษณ์พิเศษ "บิว" ผู้เสียหาย หลังผ่านมาเหตุการณ์นาน 1 เดือน แต่คดียังไม่คืบหน้าและจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้
"บิว" เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุถูกทำร้าย เธอเพิ่งเดินทางกลับจากดูคอนเสิร์ตย่านมิดทาวน์นิวยอร์ก และกินอาหารกับเพื่อน ต่อมาแยกกับเพื่อนและเดินทางกลับบ้าน ลงบันไดรถไฟใต้ดิน ระหว่างรอรถไฟ ผู้ก่อเหตุเข้ามาทางด้านหลัง ซึ่งช่วงเกิดเหตุเป็นเวลา 04.00 น. มีคนอยู่บ้างบริเวณที่นั่ง ซึ่งการเดินทางในช่วงเช้ามืดที่นิวยอร์กซิตี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ผู้ก่อเหตุก็ลากเธอไปยังบริเวณที่ไม่มีคน
สถานที่เกิดเหตุเป็นสถานีรถไฟใต้ดินกลางเมืองขนาดใหญ่ และเพิ่งมีการเตรียมและเพิ่มกล้องวงจรปิดหลายตัว แต่ทนายความของบิว ระบุว่า ภาพที่ตำรวจ NYPD เปิดเผยเป็นเพียงส่วนน้อยและมีคุณภาพของภาพต่ำ
ทุกอย่างเป็นไปตามคลิป ต่อมามีคนพาไปหาเจ้าหน้าที่ที่ด้านบน เรียกรถพยาบาล และตำรวจ
เมื่อเธอต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กระทบต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้เธอมองนิวยอร์กเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก "บิว" บอกว่า นิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่และเย้ายวน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบให้มองเมืองใหญ่แห่งนี้แตกต่างไปจากเดิม เพราะทุกที่มีสองด้าน และเหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนการเจออีกด้านของเมืองที่ตัวเองหลงใหล
ความยากลำบากที่สุด คือ การบอกเล่าเหตุการณ์กับครอบครัว เพราะเธอเดินทางมาเมืองใหญ่แห่งนี้เพียงลำพัง "ไม่รู้จะบอกอย่างไร ใช้เวลาทำใจบอก แต่ต้องบอก เพราะเรื่องใหญ่มากจริง ๆ แต่บอกคร่าว ๆ ว่าโดนทำร้าย ปล้นเอากระเป๋าไป" บิวไม่ได้บอกเรื่องที่ถูกกระทำอนาจาร แต่ได้บอกครอบครัวล่วงหน้าว่า อาจจะเห็นภาพเหตุการณ์จากคลิป และไม่นานครอบครัวก็เห็นคลิปจากข่าวจริง ๆ ซึ่งตัวเองเตรียมใจไว้แล้ว แต่เตรียมไว้แค่ไหนก็ไม่พอกับเรื่องแบบนี้ ยากมาก สงสารครอบครัว
บิว พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ดังกล่าว แม้เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะกังวลที่ยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ และคนอื่น ๆ อาจเจอเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเธอ
"พยายาม ฮึบ ฮึบ พยายามเผชิญหน้า ดูว่าสิ่งที่เราทำพอจะทำอะไรได้บ้าง มีใครให้ปรึกษาก็ปรึกษา หาข้อมูลเท่าที่จะหาได้ ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้า เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ และเป็นไปได้ที่จะมีการก่อเหตุกับคนอื่น ๆ เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับบิวแค่คนเดียว แต่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเยอะมาก ถ้าทำอะไรที่ช่วยได้ บิวก็พยายามกล้าและทำอย่างเต็มที่"
ขณะที่นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนักศึกษาไทยถูกทำร้ายในนิวยอร์ก ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก แจ้งว่า กรณีนักศึกษาที่ถูกทำร้ายร่างกาย เป็นอาการฟกซ้ำดำเขียว โดยได้แจ้งความกับตำรวจ NYPD แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว เมื่ออาการดีขึ้นจะติดต่อที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อทำเอกสารเดินทางที่เกี่ยวข้องต่อไป
สถานกงสุลใหญ่ฯ ติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดเป็นระยะ พร้อมติดตามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามผู้ก่อเหตุ ซึ่งก่อเหตุบนรถไฟใต้ดิน
ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนคนไทยที่อยู่ทั่วโลก กรณีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นได้ในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการเดินทาง หากประสบเหตุถูกทำร้ายร่างกาย หรือคดีอาชญากรรม ขอให้ติดต่อหน่วยงานท้องถิ่น ตำรวจในรัฐและเมืองที่อยู่อาศัย จากนั้นติดต่อสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ ในเมืองและในประเทศที่พำนักอยู่ ส่วนญาติพี่น้องติดต่อได้ที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทย กรมการกงสุล ซึ่งกระทรวงต่างประเทศมีความห่วงใยคนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
"สถานกงสุลใหญ่จะติดต่อ NYPD ตำรวจเจ้าของคดี เพื่อดูว่ามีความคืบหน้าอย่างไร คดีนี้ยังต้องติดตามอยู่ เข้าใจว่าผู้ต้องหาที่ยังติดตามไม่ได้นั้นเป็นคนไร้บ้าน"