เสียงนศ.
วันนี้กลุ่มนักวิชาการ นักศึกษาและประชาชน ประมาณ 50 คนได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งนักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน ประกอบด้วยนักศึกษากลุ่มดาวดินและนักศึกษาที่จัดกิจกรรมวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหารที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพถูกควบคุมตัวอยู่ ทั้งหมดได้เข้าเยี่ยมนักศึกษาเมื่อเวลา 11.10 น. เจ้าหน้าที่อนุโลมให้เข้าเยี่ยมพร้อมกันทั้งหมดและได้นำตัวนักศึกษา 13 คนออกมาพบ ส่วนนักศึกษาอีก 1 คน คือ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ซึ่งเป็นนักศึกษาหญิงเพียงคนเดียวนั้นถูกควบคุมตัวแยกต่างหากที่ทัณฑสถานหญิงกลาง จึงไม่ได้ออกมาพบด้วย
นักศึกษาชายทั้ง 13 คนสวมชุดผู้ต้องขัง ถูกตัดผมรองทรงตามระเบียบของเรือนจำ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและบอกผู้ที่มาเยี่ยมว่าพวกตนมีกำลังใจดีและได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่" นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ในนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำกล่าวกับผู้สื่อข่าว "ไทยพีบีเอสออนไลน์" จากห้องเยี่ยมของเรือนจำว่า "ผมสบายดี มีกำลังใจดี เพื่อนๆ ในกลุ่มก็ยังมีกำลังใจดีเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ในเรือนจำดูแลเป็นอย่างดี เราอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ และพวกผมยังขอยืนยันเจตนารมณ์เดิม"
สอดคล้องกับนายสุวิชชา พิทังกร หรือ "เบส" นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นนักศึกษากลุ่มดาวดินอีกคนหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวว่าพวกเขาสบายดีและเจ้าหน้าที่ก็ดูแลเป็นอย่างดี
นักวิชาการที่เข้าเยี่ยมนักศึกษาในวันนี้ ได้แก่ ปิยบุตร แสงกนกกุล คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา, ดวงมณี เลาวกุล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ ธิกานต์ ศรีนารา คณะสังคมศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองของนักศึกษาบางคน และตัวแทนจากสภาทนายความเข้าเยี่ยมด้วย ทั้งนี้นักวิชาการจากหลายสถาบันมีกำหนดจะมาเยี่ยมนักศึกษาทุกวันในเวลา 10.00 น.ในช่วงที่ถูกฝากขังตลอดสัปดาห์นี้
ภายหลังจากการเข้าเยี่ยมกลุ่มนักศึกษาชาย 13 คน นายยุกติกล่าวว่า นักศึกษาทั้งหมดยังเข้มแข็งและหนักแน่นในเจตนารมณ์ของตนเอง
"แต่ถึงยังไงคุกก็ไม่ใช่สถานที่ที่นักศึกษาควรอยู่ เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นถึงความบิดเบี้ยวของระบบยุติธรรมของไทยและเห็นความล้มเหลงของรัฐบาลในการจัดการกับความขัดแย้ง ทุกวันนี้รัฐบาลมีภารกิจที่ต้องทำเยอะ แต่ทำไมต้องมาเพ่งเล็งการแสดงออกเพื่อสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา จึงคิดว่ารัฐบาลและสังคมควรจะรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาที่แสดงออกเพื่อสังคม" นายยุกติกล่าว
นางพวงทองกล่าวว่า หลังจากนักศึกษาถูกจับ ทางอาจารย์ได้หารือกันและได้จัดวันเวลามาเยี่ยมทุกวัน เพื่อยืนยันว่านักศึกษาที่ถูกจับเป็นผู้บริสุทธิ์
ขณะที่ เรวดี มารดาของนายรัฐพล ศุภโสภณ ซึ่งเป็น 1 ในนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เปิดเผยว่า บุตรชายเป็นคนที่ศรัทธาในประชาธิปไตยและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ จึงเรียกร้องเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา พร้อมมองว่าการควบคุมตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
"สังคมไทย 10 ปีที่ผ่านมาที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนี้ เขารักและศรัทธาในประชาธิปไตย ศรัทธาในความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ส่วนเรื่องแนวคิดทางการเมืองและสิ่งที่ทำ เป็นเรื่องของเขาเพราะเขามีความคิดเป็นของตัวเอง และการควบคุมตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนครั้งนี้รู้สึกเจ็บปวดมาก เพราะพวกเขาทำเพื่อส่วนร่วมและเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่พลเมืองทุกคนควรจะมี พอมันขาดไปเขาก็เรียกร้อง แต่นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ตอบแทนเขาหรือ มันไม่ยุติธรรม มันเกินกว่าเหตุ" มารดาของนายรัฐพลกล่าวถึงบุตรชาย
ด้าน น.ส.กตัญญู หมื่นคำเรือง ตัวแทนนักศึกษาที่มาเยี่ยมเพื่อนในเรือนจำระบุว่า จะมีการรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค.2558 เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อนนักศึกษา ทั้งนี้นักศึกษาจะเผยแพร่ข้อมูลและความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" (New Democracy Movement)
"ถึงเพื่อนเราอยู่ข้างใน คนที่อยู่ข้างนอกจะเคลื่อนไหวต่อ" น.ส.กตัญญูกล่าว
ทั้งนี้ศึกษาทั้ง 14 คน ยืนยันว่าจะไม่ขอประกันตัวเองและจะต่อสู้คดีโดยมีทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้คำปรึกษาทางคดี
ส่วนความเคลื่อนไหวของนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับจากการชุมนุมหน้าหอศิลป์ฯ 2 คน ได้แก่ นายนัชชชา กองอุดม และนายธัชพงษ์ แกดำ ขณะที่ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่าวันนี้ (29 มิ.ย.2558) อัยการศาลทหารได้มีคำสั่งฟ้องทั้ง 2 คน ต่อศาลทหารแล้วในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 โดยต่อมาเมื่อเวลา 12.52 น.ศาลทหารได้อนุญาตให้ประกันตัวนายนัชชชา และนายธัชพงษ์ ด้วยหลักทรัพย์คนละ 10,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการประกันตัว 2 ข้อ ห้ามร่วมชุมนุมทางการเมืองและยุยงปลุกปั่นให้คนอื่นใดร่วมชุมนุมไม่ว่าจะกระทำด้วยวิธีใด ทั้งทางตรงและทางอ้อม และหากผิดเงื่อนไขสัญญาประกัน ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งเพิกถอนประกัน
หลังจากมีคำสั่งแล้ว ศาลจะนำตัวตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเพื่อปล่อยตัวต่อไป สำหรับกรณีนายนัชชชา ทีมทนายความยื่นคำแถลงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัวที่เรือนจำหญิง แต่ศาลยกคำร้องนี้ โดยอ้างเหตุผลว่าพิจารณาตามกฎหมาย จำเลยยังมีสถานภาพเป็นเพศชาย และไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดรองรับว่าชายที่แปลงเพศแล้วให้ถือเป็นเพศหญิง จึงให้ยกคำร้อง