ทางออกการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง

โฆษกกลุ่มเคเอ็นยู ยืนยันจะเดินหน้าสู้รบ แม้ว่าเคยทำสัญญาหยุดยิงกับเมียนมา โดยอ้างเมียนมาไม่มีความจริงใจสร้างสันติภาพ ขณะที่นักวิชาการมองว่าการถอดกลุ่มติดอาวุธในหมู่บ้านกระเหรี่ยงอย่าง บ้านเลเตอก่อ ที่เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ จะเป็นทางออกยุติการสู้รบ

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2564 นายพาโด้ ตอยินนี โฆษก รมว.ต่างประเทศและโฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู. ยืนยันการสู้รบยังจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ เคเอ็นยู. และชาติพันธุ์ติดอาวุธอีก 9 กลุ่ม ได้เซ็นสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ หรือ เอ็นซีเอ. เนื่องจากที่ผ่านมาเมียนมาไม่มีความจริงใจในการสร้างสันติภาพ

การสู้รบที่หมู่บ้านสันติภาพ เลเตอก่อ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เป็นการต่อต้านและแสดงแสนยานุภาพให้กองทัพเห็น และตลอด 70 ปี เราจะเป็นการซุ่มโจมตีมากกว่าการตั้งมั่นรับมือ

คำพูดของโฆษก เคเอ็นยู. แสดงให้เห็นว่าจากนี้จะยังมีการสู้รบในพื้นที่รัฐกระเหรี่ยงระหว่าง เคเอ็นยู. กับกองทัพเมียนมา โดย เคเอ็นยู. จะยังใช้การซุ่มโจมตีเป็นหลัก

สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู. มีกองกำลังติดอาวุธของตนเอง ในชื่อว่ากองทัพกะเหรี่ยง เคเอ็นแอลเอ แบ่งกำลังพล เป็น 7 กองพลน้อย ควบคุมพื้นที่ 7 จังหวัดในรัฐกะเหรี่ยง

กองทัพกะเหรี่ยง เคเอ็นแอลเอ เป็นการรวมกลุ่ม ทหารเดิมของ เคเอ็นยู. กับองค์กรทหารที่เคยแยกตัวออกไปก่อนหน้านี้ คือ ดีเคบีเอ , ดีเคบีเอ. กลุ่มก้าวหน้า บีจีเอฟ บางส่วน และเคเอ็นแอลเอ กลุ่มสันติภาพ ในระยะไม่ถึง 5 ปี ดังนั้น จึงยังไม่มีความเป็นเอกภาพมากนั้น

ผศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร นักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ศึกษาเรื่องนี้ มองว่าทางออกของปัญหา ให้หมู่บ้านเลเตอก่อ หรือหมู่บ้านสัญลักษณ์สันติภาพ ให้ปลอดทหารเหมือนช่วงก่อนการเปลี่ยนการปกครอง วันที่ 1 ก.พ.2564 เพื่อสร้างความเชื่อใจของ 2 ฝ่าย ขณะเดียวกัน ต้องสร้างสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนทั้งการเมือง และการทหาร

ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ธ.ค.2564 ในรัฐกะเหรี่ยงได้เกิดการสู้รบอีกครั้ง หลังยุติได้เพียง 2 วัน โดยกองทัพกะเหรี่ยง เคเอ็นแอลเอ ได้เข้าโจมตีหมู่บ้านเลเตอก่อ ที่กองทัพเมียนมายึดครอง และจับตัวทหารเมียนมาได้ 7 นาย พร้อมอาวุธประจำกายจำนวนหนึ่ง สร้างความกังวลว่าการสู้รบครั้งนี้จะยึดเยื้ออีกครั้ง