ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“สุวัจน์” ระบุ "ชาติพัฒนา" จะยึดโคราชคืน มั่นใจทั่ว ปท.กวาดหลักสิบ

การเมือง
2 ม.ค. 65
14:01
379
Logo Thai PBS
“สุวัจน์” ระบุ "ชาติพัฒนา" จะยึดโคราชคืน มั่นใจทั่ว ปท.กวาดหลักสิบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“สุวัจน์” ระบุชาติพัฒนาจะกลับมายึดโคราชคืน ตั้งเป้าได้ ส.ส. เลขสองหลัก เชื่อประชาชนตัดสินใจเลือกจากนโยบาย ชี้บัตรสองใบทำให้มีโอกาสมากขึ้น เพราะได้คนที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง

วันนี้ (2 ม.ค.2565) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคได้เตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้แล้ว เพราะถือว่าเข้าสู่ปีที่ 4 ซึ่งจะเห็นว่าทุกพรรคการเมืองเริ่มมีบรรยากาศเตรียมการเลือกตั้ง ทุกคนต้องมีความพร้อม

ต้องเตรียมพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา

ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาได้ประชุมใหญ่ และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยได้เริ่มจัดทำนโยบายต่างๆ แล้ว ถือว่ารองรับปีที่ 4 ซึ่งยังไม่ทราบว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อใด แต่ตอนนี้ก็มีเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นในบางพื้นที่ ทั้ง ชุมพร สงขลา กทม.เขต 9 หลักสี่ ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ยังไม่ทราบ ซึ่งเราก็มีความพร้อมเพราะการเมือง บางทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อนถือว่าไม่ประมาท

“โคราช” จะเป็นเป้าหมายของหลายพรรค

ส่วนที่หลายพรรคการเมืองพุ่งเป้าปักหลัก จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยจะทำให้เจริญเหมือน จ.บุรีรัมย์ นายสุวัจน์กล่าวว่า ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ที่ทุกพรรคการเมืองจะให้ความสำคัญกับจังหวัดที่มีฐานการเมือง ซึ่ง จ.นครราชสีมา มีจำนวน ส.ส.รองจาก กทม. รวมทั้งสมัยหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้ง ทำให้มีส.ส.มากขึ้น ตามรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไข

มีความเป็นไปได้ที่ จ.นครราชสีมา จะเพิ่มจำนวน ส.ส.ขึ้นมาอีก จึงเป็นพื้นที่หมายปองของทุกพรรคการเมือง ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนาได้มีการเตรียมความพร้อม เพราะเราต้องการให้พรรคชาติพัฒนากลับมา จึงต้องรักษาฐานเสียงเอาไว้

มั่นใจโคราช เพราะเป็นบ้านเกิดของชาติพัฒนา

จ.นครราชสีมา ถือเป็นบ้านเกิดของพรรคชาติพัฒนา และเป็นพรรคที่มีผลงานในอดีต ดังนั้นเราจึงคิดว่าต้องทำงานการเมืองให้มีฐานที่มั่นคงขึ้น จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าใน จ.นครราชสีมา พรรคจะมีความพร้อมมากที่สุด

ส่วนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วไม่เป็นไปตามเป้าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะปรับแผนอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องมีการเตรียมการ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายและตัวผู้สมัครที่ต้องนำผู้สมัครเก่ากลับมา

กติกากำหนดเองไม่ได้ พร้อมรับมือทุกแบบ

ส่วนที่บัตรเลือกตั้งครั้งหน้าจะใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ จะเป็นผลดีกับพรรคหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า เราก็เหมือนนักกีฬา เมื่อมีกติกาก็ต้องปรับตัว ยืนยันว่าพร้อม ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งแบบไหน ซึ่งการเลือกตั้งบัตรสองใบเหมือนย้อนกลับไปในอดีต ที่เคยผ่านมาแล้ว และประสบความสำเร็จ ได้ที่นั่งมากพอสมควร แต่การเลือกตั้งบัตรสองใบ ยุทธศาสตร์จะต่างจากบัตรใบเดียว

การคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ได้คำนวนจากความนิยมของพรรคโดยตรง แต่มาจากคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำให้คะแนนของพรรคเล็กบางพรรคหายไปเฉยๆ แต่การแก้ไขเป็นบัตรสองใบทำให้เกิดความสำคัญ กับตัว ส.ส.และพรรค ทำให้พรรคต้องตั้งใจส่งคนที่ดีที่สุด

รวมถึงเรื่องนโยบายต้องสำคัญที่สุด และพรรคการเมืองจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 เป็นปัญหาที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ไขอยู่ แต่เหตุการณ์หลังโควิด เราจะฟื้นฟูประเทศกันอย่างไร จะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ในระบบเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และให้ประชาชนเห็นว่าหากมีการเลือกตั้งหลังสถานการณ์โควิดเศรษฐกิจจะมีทิศทางอย่างไร

คาดทุกพรรคเตรียมนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ

ดังนั้นคิดว่านโยบายด้านเศรษฐกิจหลังโควิด สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นส่งที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเตรียมความพร้อม ซึ่งพรรคชาติพัฒนากำลังจัดทำแผน เพื่อเป็นนโยบายให้ประชาชนเห็นว่า ถ้ามีการเลือกตั้งประเทศชาติควรจะมีทิศทางเศรษฐกิจอย่างไร โดยผู้ที่จะมาทำนโยบายให้สำเร็จคือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ซึ่งนโยบายและแคนดิเดตจะเป็นปัจจัยเป็นตัวตัดสินเรื่องจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ของการเลือกตั้งในระบบบัตรสองใบ

สุวัจน์ตั้งเป้าชาติพัฒนาได้ ส.ส.เลข 2 หลัก

ส่วนพรรคชาติพัฒนาคาดว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะกลับมา ได้ ส.ส.เพิ่มหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ที่ จ.นครราชสีมา ต้องมากกว่าเดิม

ภาพรวมอยากให้เป็นพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.เลขสองหลัก ส่วนตัวบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคยังไม่ได้พิจารณา เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น

ส่วนนายสุวัจน์จะเป็นคนชูธงของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของบ้านเมือง ขณะนี้ตนเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคก็พยายามให้คำแนะนำกับผู้บริหารพรรค ส่วนอนาคตทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่ ตนอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ก็ทำงานการเมืองมานาน มีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งก็พร้อมจะช่วยเหลือประเทศชาติอยู่แล้ว การตัดสินใจต้องเป็นไปตามสถานการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง