ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อช.เขื่อนศรีนครินทร์ สั่งห้ามพักแรม-ตั้งแคมป์ทั้งบนเกาะ-ริมอ่างฯ

Logo Thai PBS
อช.เขื่อนศรีนครินทร์ สั่งห้ามพักแรม-ตั้งแคมป์ทั้งบนเกาะ-ริมอ่างฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าพักแรมในพื้นที่เกาะ แก่งและริมอ่างเก็บน้ำ หลังมีกลุ่มคนลักลอบเข้าไปประกอบกิจกรรมการท่องเที่ยวและพักค้างแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

วันนี้ (5 ม.ค.2565) นายยุทธพงษ์ คำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ออกประกาศอุทยานฯ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าพักแรม บริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

ในประกาศระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันในเขตพื้นที่อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ มีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบเข้าไปแสวงหาประโยชน์ โดยการให้บริการประกอบกิจกรรมการท่องเที่ยว และพักค้างแรมในพื้นที่อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการแอบยึดถือครอบครองที่ดินในพื้นที่บริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และมีการให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าพักแรมในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะการใช้เต็นท์ กระโจม รถพ่วง รถบ้าน หรือวิธีการอื่นๆ เป็นจำนวนมาก

อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการควบคุมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในเขตอุทยานฯ จึงห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปพักค้างแรมบริเวณพื้นที่เกาะ แก่ง และพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะการใช้เต็นท์ กระโจม รถพ่วง รถบ้าน เรือ หรือแล้วแต่กรณี

สำหรับกรณีการพักค้างแรมในแพพักต่างๆ จะต้องเป็นแพที่ลงทะเบียนสำรวจไว้กับอุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์เท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดระเบียบแพพัก แพบริการตามกฎหมาย

หากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 20 ฐานบุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 4 (2) และ (3) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 20 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท

กรณีเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ จะต้องระวางโทษตามมาตรา 19(6) ประกอบมาตรา 44 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากพบเบาะแสการกระทำแจ้งได้ที่ 034 -540316 หรือ 092-482-1564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง