วันนี้ (1 เม.ย.2568) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุตึกถล่มจากแผ่นดินไหว ว่า เรื่องการเยียวยา เป็นไปตามกฎหมาย กรณีดังกล่าวหากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เรื่องความประมาททำให้เสียชีวิต ถือเป็นฐานความผิดทางอาญา ก็จะไปเข้าข้อกฎหมาย แต่ในการช่วยเหลือเยียวยาของเหตุภัยพิบัติ มีหลายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานที่ดูแลโดยตรง อย่างกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา
ซึ่งในส่วนของรัฐบาลมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนโศกนาฏกรรม ก็ต้องดูแลช่วยเหลือเต็มที่ ดังนั้น การเยียวยาทางด้านจิตใจ และที่เป็นตัวเงินจะต้องมี ซึ่งในการเยียวยาเหตุภัยพิบัติสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุด นอกจากนี้ รัฐบาลอาจจะมีมติคณะรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม สำหรับกระทรวงยุติธรรม จะเข้าไปดูแลเรื่องหนี้สินครัวเรือนด้วย
ขณะเรื่องคดีความมีอยู่ 3 ประเด็น ที่จะเข้าข่ายความผิด คือ 1.การประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว ที่ใช้นอมินี เท่าที่ดูจากงบการเงินที่เผยแพร่กันอยู่ ของบริษัทดังกล่าว ขาดทุนมาตลอด และไม่มีการเสียภาษี อีกทั้งมีการนำเงินของบริษัท ไปให้กรรมการกู้จำนวน 2 พันล้านบาท แม้อำนาจที่แท้จริงจะให้ต่างชาติ 49 % ไทย 51 % แต่หากมองในลักษณะมีอำนาจครอบงำ จะเห็นในเรื่องของการบริหาร

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
ดังนั้น จึงต้องเข้าไปดูประกอบกับการตรวจสอบสถานที่เดียวกัน กลุ่มคนเดียวกัน มีบริษัทในลักษณะนี้ 10 บริษัท ซึ่งต้องดูว่า มีการกระทำใดที่เป็นความผิดในพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว และเข้าข่ายที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปดำเนินการหรือไม่
ประเด็นที่ 2.หากสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ดีเอสไอมีอำนาจในการสอบสวน และ 3.การจัดซื้อจัดจ้าง ที่เรียกว่าฮั้วประมูล หากเกินกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ เพราะเบื้องต้นเห็นว่า ต่ำกว่าราคากลางเพียง 1 % เท่านั้น ปกติการประมูลที่ไม่มีการแข่งขัน ควรต่ำกว่า 10-15 %
เมื่อถามว่าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 มีบริษัทเครือข่ายเดียวกันกว่า 24 บริษัท พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทราบจากการรายงานของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือการตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดถึงเกิดเหตุแค่ตึกเดียว ก็จะดูว่ามีการกระทำผิดหรือไม่
ซึ่งมีข้อมูลทางทะเบียนไปตรวจสอบ เรื่องการเสียภาษี ที่เกี่ยวกับกรมสรรพากร รวมถึงการตรวจสอบในเชิงลึก คือการนำบุคคลที่เกี่ยวข้องมาซักถาม ก็จะได้ข้อมูล ก็ได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการ
ส่วนจะพุ่งเป้าไปที่บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ก่อนใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ดูเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจของไทย เหมือนจีดีพีจะโต แต่คนไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงจะไปดูว่า หากเราบังคับใช้กฎหมายธุรกิจของคนต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมาย เงินที่จะไปสู่คนต่างด้าวเพียงอย่างเดียว ต้องกลับมาหาคนไทย 51 % ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ แต่จะดูธุรกิจทั้งหมด ที่คนต่างด้าวดำเนินการ โดยให้สำนักความมั่นคงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปดูเรื่องนอมินีทั้งหมด
อ่านข่าว : การสื่อสารจากรัฐในเหตุวิกฤต หรือ วิกฤตการสื่อสารของรัฐ