หญิงเมาแล้วขับย้อนศรทำร้ายเจ้าหน้าที่

เมาแล้วขับเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งมีกรณีหญิงเมาแล้วขับรถย้อนศรถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ และถูกตั้งคำถามถึงพฤติกรรมที่เมาและกร่างกับตำรวจ แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นมีอุบัติเหตุ แต่มีคำถามว่าหากไม่ถูกระงับเหตุ ความสูญเสียอาจเกิดขึ้นได้

วันนี้ (8 ม.ค.2565) จากกรณีที่มีคลิปของหญิงคนหนึ่งที่มีอาการเมา ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์และถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมและพฤติกรรม ซึ่งได้เอ่ยประโยคยอดฮิตอย่างว่า "รู้ไหมว่าลูกใคร" ซึ่งตำรวจไม่ได้ตอบโต้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.2564

พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หญิงคนดังกล่าวขับรถเก๋งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้อนศร วิ่งสวนเส้นทางคันอื่น ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบหญิงคนขับรถอยู่ในอาการมึนเมา จึงแจ้งว่าต้องไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทำให้หญิงคนดังกล่าวไม่พอใจ ต่อว่า และใช้รองเท้าทำร้ายตำรวจ แต่สุดท้ายถูกคุมตัวไปสถานีตำรววจ และตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบสูงถึง 177 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ตำรวจจึงแจ้ง 4 ข้อหา คือขับขี่รถในขณะเมาสุรา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำให้เสียทรัพย์ ภายหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว และขณะนี้คดีอยู่ในขั้นตอนผัดฟ้อง

ขณะที่ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กตามหาเจ้าของคลิป และได้พูดคุยกับไทยพีบีเอสถึงที่มาที่ไปว่า ต้องการมอบรางวัลแก่ผู้เผยแพร่คลิปดังกล่าว เพราะอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ 7 วันในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 คดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเผยแพร่ภาพผู้เมาแล้วขับผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นอีกกลยุทธ์ใช้เทคโนโลยีที่คาดว่าจะช่วยให้การรณรงค์เมาไม่ขับได้ผลดียิ่งขึ้น

ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมาแล้วขับช่วงเทศกาลที่ผ่านมาสูงถึง 333 คน การมอบรางวัลให้ผู้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาสาตาจราจร ที่มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วุฒิสภา และภาคเอกชน สนับสนุนเงินรางวัลเพื่อรณรงค์ และจะทำต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตบนท้องถนนจากที่ผ่านมาปีละ 20,000 คน หรือวันละ 50 คน