วันนี้ (19 ม.ค.2565) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภามั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ศปก.ศบค.ประเมินสถานการณ์ภาพรวมหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ การพิจารณาผ่อนคลายมาตรการหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อทรงตัว และระบบการรักษาพยาบาลสามารถรองรับได้
ทั้งนี้ จะพิจารณาขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 16 ออกไปอีก 2 เดือน เพราะยังมีความจำเป็น เพื่อควบคุมให้สถานการณ์อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัย
ส่วนการพิจารณาระดับพื้นที่สี ทั้งพื้นที่สีฟ้า 5 จังหวัดที่รอการพิจารณา และพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ จะพิจารณาอีก 13 พื้นที่ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกำหนดเป็นพื้นที่แซนด์บ็อกทั้งหมดหรือไม่ รวมทั้งมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ผ่านระบบ Test and Go ซึ่งจะพิจารณาเพิ่มเงื่อนไขให้เกิดความรัดกุมมากขึ้น
เลขาฯ สมช. ยืนยันว่าจะไม่มีการกักตัว แต่จะมีระบบติดตามตัวและให้ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ภายใน 7 วัน หลังจากนั้นหากพบว่าไม่ติดเชื้อจะสามารถเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นการผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
สำหรับมาตรการเหล่านี้มีทั้งสามารถเริ่มได้ทันที หรือบางส่วนที่จำเป็นต้องลงทะเบียนจะเริ่มได้ในวันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป แต่ทั้งหมดต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)
ขณะที่การเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เต็มรูปแบบ เห็นว่ายังมีความเสี่ยงมาก หากจะเปิดบริการต้องปรับเป็นรูปแบบร้านอาหาร แจ้งท้องที่เพื่อตรวจประเมินให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด
เลขาฯ สมช. ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ปกครองเรียกร้องให้ยุติการบังคับให้เด็กตรวจ ATK และสวมหน้ากากอนามัย โดยให้เป็นไปด้วยความสมัครใจนั้น เห็นว่าหากไม่ดำเนินมาตรการป้องกันตนเอง ไม่สวมหน้ากากอนามัย อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดส่งผลต่อระบบสาธารณสุข แต่หากกระทรวงศึกษาธิการมีข้อเสนอให้ผ่อนปรน หรือมีมาตรการอื่น ก็ต้องเสนอ ศปก.ศบค. เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา
อ่านข่าวอื่นๆ
จับตา 20 ม.ค.นี้ ชง ศบค. ปรับพื้นที่สี-เพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อกซ์
ผู้ปกครองร้อง สธ.ยกเลิกตรวจ ATK เด็กนักเรียน