จุดวัดใจชาวกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 9 กว่า 107,764 คน อยู่ที่วันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งหากหยิบยกผลคะแนนเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 มาเทียบเคียง
จะเห็นว่า “สิระ เจนจาคะ” จากพลังประชารัฐ เอาชนะคู่แข่ง “สุรชาติ เทียนทอง” ได้เพียง 2,792 คะแนน ทิ้งห่างไม่มากนัก แต่กระแส "สุรชาติ" อาจไม่เปรี้ยงเท่าพรรคขั้วเดียวกันอย่าง อนาคตใหม่ จึงถูกแบ่งคะแนนไป 25,735 คะแนน แต่รอบนี้จุดแข็งของ "สุรชาติไ อยู่หลักสี่หลังลงพื้นที่ต่อเนื่อง
ส่วน “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ผู้สมัครจากพลังประชารัฐ จะเข้าวินตามเป้าที่หวังหรือไม่ คำนวณแล้วต้องใช้หลายปัจจัย โดยเฉพาะกระแสพรรคที่เป็นโจทย์ท้าทาย หลังได้บทเรียนจากเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใต้ ที่ผ่านมา แถมท้ายด้วยปัญหาภายในพรรคเอง
ขณะที่พรรคก้าวไกล ส่งผู้สมัครหน้าใหม่ “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” ลงชิงชัย ได้แรงเสริมจากคณะก้าวหน้า มีฐานคะแนนเดิมจากอนาคตใหม่ อยู่ 20,000 กว่าจะยังเท่าเดิมหรือเพิ่มเติมต้องไปรอลุ้นกัน
คะแนนอันดับ 4 ของการเลือกตั้งปี 2562 คือ ประชาธิปัตย์ 16,255 คะแนน แต่รอบนี้ไม่ส่งลงชิง สัดส่วนคะแนน อาจถูกเทไปให้ "อรรถวิชญ์ สุวรรณภักดี" ดีกรี ส.ส. 2 สมัย ในฐานะศิษฐ์เก่าหรือไม่ และยังมีทุนเดิมที่วัดได้จากการเลือกตั้งครั้งนั้น ในเขตพื้นที่จตุจักร อีกมากว่า 16,000 คะแนน ผนวกกับกระแสของพรรคกล้าที่ว่าดีขึ้นทุกวันด้วย
แต่ก็ยังมีตัวแบ่งคะแนนในสนามเช่นกัน นั่นคือ ผู้สมัครจากพรรคไทยภักดี คือ นายพันธ์เทพ ฉัตรนะรัตน์ ที่ลงชิมลางวัดกระแสพรรคใหม่ รวมไปถึง พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ส่ง รุ่งโรจน์ อิสรอฮิม ร่วมเกาะกระแสการเมืองอีก สนามนี้ จึงไม่ได้วัดกันที่ฐานเสียงทางการเมืองในพรรคต้นสังกัดเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ตัวผู้สมัคร นโยบาย จุดขายและกระแส หรืออาจหมายถึง "ขั้วการเมือง" ด้วย