กรณีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เขียนข้อความ รับซื้อขายสิทธิ์ วงเงินในโครงการ คนละครึ่ง และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่างกว้างขวาง โดยผู้ขายสิทธิ์ ต้องสแกน คิวอาร์โค้ด ร้านค้าในโครงการ เสมือนซื้อขายจริง เช่น สแกนจ่าย 300 บาท ผู้รับซื้อสิทธิ์ จะโอนเงินสดให้ ผู้ขายสิทธิ 250 บาท ซึ่งร้านค้าจะได้รับทั้งค่าสินค้าจากภาครัฐ และเงินที่หักจากผู้ขายสิทธิ์
วันนี้ (3 ก.พ.2565) นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ที่ได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-3 ก.พ.นี้ (ข้อมูลเวลา 15.00 น.) มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 11.51 ล้านคน ยอดการใช้จ่ายรวม 3,782.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 1,913 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 1,869.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวน 22.62 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านคน มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 1.33 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 37 ราย
ธนาคารกรุงไทย ได้รายงานรายชื่อร้านค้าในโครงการ ที่อาจรับแลกสิทธิ์ดังกล่าว และระงับสิทธิ์รับจ่ายในโครงการไปแล้ว พร้อมกับนำเข้ากระบวนการพิจารณาตรวจสอบ เพื่อเรียกคืนเงินที่รัฐโอนให้ และดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาต่อไป
นอกจากนี้ผู้ขายสิทธิ์ จะกลายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด และถูกดำเนินคดีอาญากับบุคคลดังกล่าวด้วย จึงขอเตือนว่าอย่าหลงเชื่อหรือสนับสนุนการกระทำความผิด เนื่องจากกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวจข้อง ติดตามตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่องโดยไม่เคยนิรโทษกรรมร้านค้าในโครงการที่กระทำผิด และเคยส่งดำเนินคดีผู้ขายสิทธิ์ถึงชั้นศาลพิพากษามาแล้ว
ผู้ประกอบการกังวลกระทบคนสุจริต
ขณะที่ น.ส.ลัดดา ศรีกรด ผู้ประกอบการร้านธงฟ้าประชารัฐ-คนละครึ่ง ย่านวิภาวดีรังสิต กังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้น จะกระทบผู้ประกอบการสุจริต อาจเสียโอกาส หากรัฐทบทวนโครงการ ซึ่งอาจกระทบยอดขายสินค้า ยอมรับว่าเคยมีผู้ใช้สิทธิ์บางส่วน เสนอขายสิทธิ์ให้ แต่ร้านปฏิเสธไป เพราะไม่คุ้มค่าหากถูกระงับสิทธิ์ เข้าร่วมโครงการ
แรกๆเคยมีคนมาสอบถามอยู่ แต่ปฏิเสธไป ขายของอย่างเดียวก็ไม่มีใครมาถาม เคยได้ยินแถวต่างจังวหวัด และทำค้าขายอย่างเดียว
ส่วนที่น้ำทิพย์ ร่องกาศ แม่ค้าปลาเผา จ.นครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เจ้าของร้านจำหน่ายเมี่ยงปลาเผา ในต.วัดไทร บอกว่าร้านค้ายื่นข้อเสนอให้เงินสดกับลูกค้าโดยไม่ต้องซื้อสินค้า ส่วนตัวคิดว่าเป็นการเอาเปรียบทางการค้าและเป็นการทุจริต ทำให้วัตถุประสงค์ของโครงการผิดเพี้ยนไป
ถือว่าเอาเปรียบร้านค้าอื่น จะขายของกับลูกค้ามากกว่า แต่ถ้าเจอพวกทุจริต ก็กลัวผลกระทบยอดขาย เพราะตอนนี้คนละครึ่งมาเพิ่มยอดขายให้ดีขึ้น
ส่วนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้สิทธิ์คนละครึ่ง เฟส 4 ที่ร้านค้าต่างๆ ยังคงคึกคักต่อเนื่อง ผู้ใช้สิทธ์บางส่วน มองว่าไม่สมควรทั้งร้านค้าและผู้ได้รับสิทธิ์ เพราะเป็นการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียว คนละครึ่งเฟส 4 คนละ 1,200 บาท ใช้ได้ 1 ก.พ.
1 ก.พ.คลังเปิดระบบยันยันใช้สิทธิ "คนละครึ่งเฟส 4" ในแอปฯ เป๋าตัง