วันนี้ (4 ก.พ.2565) ตำรวจสืบสวนนครบาล 5 ยึดรถจักรยานยนต์ 4 คัน รถยนต์กระบะ 3 คัน จากกลุ่มผู้ต้องหา 7 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุ 16 ปี 2 คน พฤติการณ์คือร่วมกันก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์และรับซื้อรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เปิดเผยว่า กลุ่มนี้ได้ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ต่าง ๆ ในเขต กทม. หลายครั้ง โดยเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วง ธ.ค.2564 เลือกขโมยเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยอดนิยม โดยกลุ่มผู้ต้องหาพบว่ามีเครือข่ายครบวงจร การขโมย การรับซื้อ และขายออก โดยกลุ่มที่ก่อเหตุมีอายุ 16 - 21 ปี เท่านั้น
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ส่วนผู้ต้องหาที่ทำการรับซื้อและส่งขายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นคู่สามีภรรยากัน ในเครือข่ายกระบวนการนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 5 คน ที่อยู่ระหว่างติดตามตัว ผู้ต้องหาส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุเฉลี่ย 20 - 25 ปี โดยตลอด 1 เดือนพบมีการก่อเหตุแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คัน
ขณะที่การแจ้งความดำเนินคดี ผู้ต้องหามีความผิดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร โทษจำคุกตั้งแต่ 1- 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท
รวบขบวนการ "ทำป้ายภาษี- ใบขับขี่" ปลอม
ขณะเดียวกันตำรวจสืบสวนนครบาล 6 จับผู้ต้องหาก่อเหตุปลอมแผ่นป้ายภาษีรถ ใบขับขี่ และบัตรประชาชน ก่อนจะประกาศขายผ่านสื่อออนไลน์ อีก 1 คดี โดยผู้ต้องหามีอาชีพหลักเป็นพนักงานออฟฟิศ มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ทำให้มีความรู้ ความชำนาญในการใช้และปลอมแปลงเอกสาร
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำมาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยมีผู้มาชักชวนให้ร่วมขบวนการทำแผ่นป้ายภาษีรถ ใบขับขี่ และบัตรประชาชนปลอม โดยมีการประกาศหาลูกค้า ติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยที่ผ่านมามีผู้ติดต่อขอทำเอกสารทางราชการปลอมเหล่านี้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 300 ราย
หลังการจับกุมตำรวจยังได้ตรวจยึดกระดาษป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีแบบยังไม่ได้พิมพ์จำนวน 226 ใบ กระดาษป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีแบบพิมพ์แล้ว 17 ใบ บัตรแข็งสำหรับพิมพ์บัตรประชาชน 13 ใบ, บัตรแข็งสำหรับพิมพ์ใบขับขี่ 8 ใบ และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง พร้อมเครื่องพิมพ์เอกสาร 4 เครื่อง
ส่วนความผิดพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาปลอมเอกสารราชการและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จอันจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน