วันนี้ (7 ก.พ.2565) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอก ม.ค.2565 พบอัตราการติดเชื้อในเด็กอายุ 5-11 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 6.60% โดยมีนโยบายเร่งรัดรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี และกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-17 ปีมากขึ้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติฉีด “ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม” เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป
ช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.พ.) ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ได้ข้อสรุปการฉีดวัคซีน COVID-19 ในผู้ที่มีอายุ 5-17 ปี ดังนี้
- วัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กอายุ 6-17 ปี ใช้ขนาด 0.5 ml เข้ากล้ามเนื้อ ระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2)
- วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ใช้ฝาสีส้ม (ขนาด 10 ไมโครกรัม/0.2 ml) ระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2) ในเด็กที่แข็งแรงดี ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกุมารแพทย์ ระยะห่าง 3-12 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2)
- วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ใช้ฝาสีม่วง (ขนาด 30 ไมโครกรัม/0.3 ml) ระยะห่างระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์ (ระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2)
พญ.สุมนี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม (เด็กอายุ 5-11 ปี) ให้กับกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัวแล้ว 44,000 คน และเริ่มฉีดให้กับเด็กสุขภาพดีในวันนี้
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองเลือกรับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ตามความสมัครใจ โดยพิจารณาตามช่วงอายุของเด็ก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง อย.อนุมัติฉีด “ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม” เด็ก 6 ขวบขึ้นไปไม่ปรับขนาดยา