เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เข้าพบหารือกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค
มาครง ระบุว่า ต้องการหลีกเลี่ยงสงครามและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งเขาเป็นผู้นำชาติตะวันตกคนแรกที่ได้พบกับปูติน นับตั้งแต่สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเมื่อเดือน ธ.ค.2564
ขณะที่ปูตินกล่าวยกย่องความพยายามของมาครงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งวันนี้ (8 ก.พ.) มาครงจะเดินทางจากกรุงมอสโกต่อไปยังกรุงเคียฟของยูเครน เพื่อพบกับ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน
นายกฯ เยอรมนีจับมือสหรัฐฯ กู้วิกฤตยูเครน
ด้าน โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อหารือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยไบเดน ระบุว่า เยอรมนีเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ และทั้งสองประเทศกำลังร่วมมือกันยับยั้งท่าทีแข็งกร้าวของรัสเซียในยุโรป
ด้านโชลซ์ ระบุว่า รัสเซียจะต้องชดใช้อย่างสาหัสหากเดินหน้าบุกยูเครน ซึ่งเขามีกำหนดเดินทางเยือนยูเครนและรัสเซียในสัปดาห์หน้า เพื่อพยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนต่อไป
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ เผยข้อมูลข่าวกรองที่เตือนว่า รัสเซียมีความพร้อมถึงร้อยละ 70 ในการบุกยูเครน หลังส่งกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายล้อมรอบพรมแดนและเปิดการซ้อมรบอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : AP, Reuters, BBC