วันนี้ (8 ก.พ.2565) ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นัดสอบคำให้การและตรวจพยาน ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ หรือ ม.112 และอีก 2 ข้อหาเกี่ยวเนื่องกัน โดยโจทก์คือพนักงานอัยการพระนครศรีอยุธยา และมีจำเลย 3 คน คือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) นายภานุพงษ์ จาดนอก (ไมค์) และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปนัสยาเดินทางมายังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับครอบครัว ขณะที่นายพริษฐ์และนายภานุพงษ์ เดินทางมาศาลฯ โดยรถของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากยังเป็นผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ต่อมาพบว่า ศาลเลื่อนนัดสอบคำให้การและตรวจพยานจากเดิมวันนี้ เป็นวันที่ 4 เม.ย.2565 เนื่องจากทนายความของนายพริษฐ์ติดคดีความอื่นในวันนี้
น.ส.ปนัสยาให้สัมภาษณ์หลังออกจากศาลฯ ว่า เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนยังกำลังใจดี เธอก็ดีใจ และได้พูดคุยอัพเดทความเคลื่อนไหวของโลกภายนอกให้เพื่อนอย่างนายพริษฐ์ฟังว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องจากไม่ได้เจอกันมาสักพักใหญ่ เช่น เรื่องการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ที่ผ่านมา หรือ เรื่องสภาล่ม รวมถึงสัญญาณการเลือกตั้งครั้งใหม่ เป็นต้น
ก็คุยกันว่าถ้าได้ออกมา (จากเรือนจำ) จะทำอะไรได้บ้าง ทุกคนก็ยังฝันหาวันที่ดีและสังคมที่ดีกว่าเดิมไม่ว่าเขาจะอยู่ตรงไหน ข้างนอกหรือข้างใน (เรือนจำ) เค้าก็ยังปรารถนาดีกับสังคมอยู่เสมอ ถ้าได้ออกมา ก็จะร่วมต่อสู้กันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรกับกระแสว่าจะเกิดรัฐประหารขึ้น น.ส.ปนัสยากล่าวว่า ไม่คิดว่าการรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีก
“เราคาดหวังการเลือกตั้งมากกว่า ไม่ว่าจะยุบสภาหรือรัฐบาลอยู่ครบวาระจนถึงมีนาคมปีหน้า (การเลือกตั้ง) จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ประชาชน ภาคประชาสังคม พรรคการเมืองต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมแล้ว กับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่าจะเลือกตั้งอย่างไรให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงมากกว่า 250 เสียง ซึ่งเป็นเสียงข้างมากให้ได้” น.ส.ปนัสยากล่าว