วันนี้ (16 ก.พ.2565) ความคืบหน้ากรณีน้ำมันดิบจากท่อส่งน้ำมันใต้ทะเล รั่วสู่ทะเล 2 ครั้ง เมื่อ 25 ม.ค.และ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากการสำรวจเบื้องต้น พบความเสียหายของท่อส่งน้ำมัน 1 จุด และได้ห่อหุ้มเพื่อหยุดการรั่วไหลไปแล้ว บริษัทฯ แจ้งว่าเพื่อรักษาและป้องกันความเสียหายของท่ออ่อน และป้องกันน้ำมันรั่วไหลสู่ทะเล
จึงต้องนำวัสดุมาห่อหุ้มรอยรั่ว จุดที่ 2 โดยเร็ว และถ้ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่ออ่อน ก็มีความเสี่ยงที่น้ำมันจะรั่วไหลออกมา เมื่อเกิดคลื่นลมรุนแรง หรือในระหว่างถอดท่อที่เสียหาย
ล่าสุด วานนี้ บริษัท สตาร์ ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด ทำหนังสือด่วนที่สุด แจ้งเจ้าท่าระยองว่า พบความเสียหายของท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลอีกจุด เป็นจุดที่ 2 อยู่ด้านบนของจุดที่ 1 ซึ่งจุดนี้ยังคงมีน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นครั้งคราว ในระหว่างดำเนินการใช้วัสดุพันปิดห่อหุ้มรอยรั่วแห่งที่ 2 อาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
จึงต้องเตรียมรับมือ ดังนี้
1.ติดตั้งเต็นท์ดักจับน้ำมัน บริเวณด้านบนของจุดรอยรั่ว
2.เตรียมเรืออย่างน้อย 10 ลำ สำหรับลากบูมอย่างน้อย 5 ปาก โดยเรือทุกลำสามารถใช้สำหรับฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน dispersant
3.เตรียมเรืออย่างน้อย 3 ลำ สำหรับการฉีดสาร dispersant พร้อมแขนฉัด
4.ติดตั้งทุ่นกักน้ำมัน (boom) และอุปกรณ์กวาดน้ำมัน (skimmer) บริเวณที่ปฏิบัติงาน
5.นักดำน้ำ ดำบริเวณจุดที่มีรอยรั่ว เพื่อสังเกตตลอดเวลาการทำงาน พร้อมโดรนใต้น้ำ บินสำรวจใต้ทะเล การดำเนินการพันปิดห่อหุ้มจุดน้ำมันรั่วไหล จุดที่ 2 ดังกล่าวนี้กำลังอยู่ระหว่างรอการอนุญาต จากกรมเจ้าท่า และสถานีตำรวจภูธร มาบตาพุด
6.โดรนอากาศยาน เพื่อบินสำรวจทางอากาศ
กลุ่มผู้ค้า-ประมง เร่ง บมจ.สตาร์ฯ สำรวจผลกระทบน้ำมันรั่ว
ที่บริเวณชุมชนก้นอ่าว หาดแม่รำพึง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง มีตัวแทนบริษัท สตาร์ ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด นำโดย นางพรทิพย์ วีระพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ ลงพื้นที่พบกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายของที่ไม่ได้จดทะเบียน และกลุ่มอาชีพประมงประเภทดำน้ำ หาปลา และงมหอย ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับการเยียวยา เพื่อชี้แจงแนวทางในการลงทะเบียน เหมือนกับกลุ่มอาชีพอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วลงทะเล ซึ่งมีผู้ยื่นขอเยียวยารวมแล้วกว่า 7,700 คน และเฉพาะการลงพื้นที่จุดนี้ มีผู้ยื่นขอรับเยียวยา จำนวน 70 คน
ซึ่งตัวแทนบริษัท ได้กล่าวขอโทษที่มาพบช้า เนื่องจากต้องทยอยทำความเข้าใจกับทุกสาขาอาชีพ และยืนยันว่าทางบริษัท รับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ขอให้ผู้เดือดร้อนไปลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเข้าสู่กระบวนการ โดยไม่ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
ขณะที่ตัวแทนผู้ค้า รับซื้ออาหารทะเลระบุว่า ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำมันรั่ว เพราะเมื่อมีการประกาศให้ทะเลแม่รำพึง เป็นพื้นที่ภัยพิบัติและปิดทะเล ทำให้เรือประมงออกเรือไม่ได้ ไม่มีวัตถุดิบไปขายและขาดรายได้ ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายการดำรงชีวิตประจำวัน