ดูจะจืดชืดไปสักหน่อย กับศึกอภิปรายทั่วไปวันแรกและครึ่งค่อนวันที่ 2 เพราะเนื้อหาสาระส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็มีส.ส.บางคน ลงลึกในรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องความเดือดร้อน ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงความบกพร่องผิดพลาดในเชิงการเมือง
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้สไตล์เดิมๆ คือเสียงเข้มนำ ตามด้วยคำยืนยันรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาทุกอย่างให้
และอ้างผลกระทบเกิดจากวิกฤตโลกเป็นกันแทบทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ขณะที่งบประมาณมีจำกัด ต้องขอความร่วมมือร่วมใจจากคนทุกภาคส่วน
ทั่วไปจึงไม่มีอะไรฮือฮามาก ยกเว้นเรื่องสภารามเกียรติ์ ที่นายกฯ ประกาศขอเป็นพระลักษณ์พระราม แล้วให้ฝ่ายค้านโดยผู้นำ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เล่นบททศกัณฑ์
ซึ่งในตอนท้าย ถูกศรพระรามปักอก ต้องสิ้นชีพตักษัย หลังหนุมานทหารเอกพระราม ใช้มือขยี้กล่องดวงใจแหลกเหลวคามือ ในจังหวะเดียวกันที่โดนศรพระรามพุ่งปักเข้าหน้าอก
พอหยิบยกรามเกียรติ์ขึ้นมาเปรียบเปรย ปรากฏว่า มีคนสนใจขอแจมด้วยหลายคน ทั้ง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และมือกฎหมายคนสำคัญของรัฐบาล จองบทพิเภก ยักษีกลับใจ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ จากภูมิไทย ขอจองบทนางสีดา ต้นเหตุสำคัญที่สุดสำหรับมหาสงครามระหว่างมนุษย์กับยักษ์ครั้งนั้น
คำถามสำคัญที่คอการเมืองใคร่กระหายอยากรู้ คือคำอุปมาอุปไมยเปรียบเทียบเป็นพระลักษณ์พระรามของ พล.อ.ประยุทธ์ มีนัยต้องการสื่อความหมายทางการเมืองอย่างไร หรือไม่ หรือคิดว่าเนื้อหาสาระอภิปรายของฝ่ายค้าน ไม่ 'ปัง' อย่างที่คุยโวไว้
แต่หากติดตามอย่างใกล้ชิด ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน คือคำชี้แจงจากรัฐบาล ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ทำให้ข้อสงสัยกระจ่างชัดขึ้นเช่นเดียวกัน
เช่น กรณีเหมืองทองอัครา ที่ฝ่ายรัฐบาลปล่อยให้ราคาซังมามานาน ครั้งนี้แม้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จะร่วมกันยกแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายอย่างไร
ก็ยังตอบคำถามง่ายๆ ของน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่เกาะติดและทวงถามเรื่องนี้มาตลอดไม่ได้ว่า การเจรจากับบริษัทแม่ คือ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด มีประเด็นแลกเปลี่ยนต่อรองอะไรบ้าง หลังคณะอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ ยืดเยื้อเลื่อนอ่านคำชี้ขาดไม่รู้กี่รอบโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาตกลงกันให้ได้
แล้วทางรัฐบาลไทย ยื่นเสนอเงื่อนไขอะไรต่อรองบ้าง?
เท่ากับภาพและบรรยากาศการประชุมสภาอภิปรายทั่วไป ที่ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์พยายามแสดงออกว่า เหนือกว่าฝ่ายค้าน และสามารถกุม 'กล่องดวงใจ' ทศกัณฑ์เอาไว้ในมือได้นั้น
การดิสเครดิตโดยย้อนกลับถามถึงความล้มเหลวและไม่ยอมแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดก่อนที่ฝ่ายค้านปัจจุบันเคยสังกัด แต่ปล่อยหมักหมมมาให้รัฐบาลชุดนี้ ต้องแก้ไขแทน จึงเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเห็นชินตา
การเล่นบท 'พระราม' บางครั้งจึงอาจกลายเป็นเรื่อง 'งอมพระราม' ได้