อุทยานฯ ขีดเส้นรื้อรีสอร์ตหรู 20 ล้านบาทริมเขื่อนศรีนครินทร์

กรมอุทยานฯ สั่งรื้อบ้านพักตากอากาศหรู 20 ล้านบาท รุกอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี หลังพ้นระยะเวลาแจ้งเตือนตามกฎหมาย พร้อมเตรียมรื้ออีก 7 รีสอร์ตมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

วานนี้ (17 ก.พ.2565) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 15 คนเข้าติดประกาศแจ้งเตือน สั่งรื้อบ้านพักตากอากาศหรูริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ มูลค่า 20 ล้านบาท บริเวณป่าบ้านหาดแตง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดและดำเนินคดีอาญาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2557 มีสิ่งปลูกสร้างลักษณะรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ จำนวน 10 รายการ รวมพื้นที่บุกรุก 17 ไร่

คดีดังกล่าวมีน.ส.พัชรินทร์ นรนิล ซึ่งมีสามีเป็นชาวต่างชาติ มาบุกรุกสร้างบ้านพักตากอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติ และมีการตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 24,200 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ริบของกลางและให้จำเลยรื้อบ้านพัก อาคารตามฟ้องออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติ

ในส่วนคดีแพ่ง กรมอุทยานฯ ยื่นฟ้องค่าเสียหายกรณีบุกรุกพื้นที่ ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ศาลได้นัดไกล่เกลี่ย และน.ส.พัชรินทร์ ตกลงและชำระเงินให้กรมอุทยานฯ จำนวน 300,000 บาท

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ไทม์ไลน์รื้อถอนบ้านพักหรู

สำหรับคดีทางปกครอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกคำสั่งลงวันที่ 23 ตุ.ค.2557 ให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานฯ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 17 พ.ย.2557 ตามความมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

โดยมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้กระทำผิดรื้อถอนเมื่อ 10 ต.ค.2557 และมีหนังสือแจ้งเตือนอีกครั้ง ให้ทำลาย หรือรื้อถอนสิ่งก่อสร้างให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ครบวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา หากพ้นกำหนดระยะเวลา อุทยานฯ จะเข้ารื้อถอน และเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 366,666 บาท พร้อมชำระเงินเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีของค่าใช้จ่าย

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

สำหรับพื้นที่อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ มีแผนที่จะรื้อถอน ทุบทิ้ง ตามกระบวนการของกฎหมาย อีกจำนวน 7 แปลงรวมมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งสำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลทางกฎหมายในการดำเนินการสั่งรื้อถอน หรือพิจารณาเข้ารื้อถอนเองในคดีแต่ละแปลงอย่างต่อเนื่อง