วันนี้ (18 ก.พ.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมการปรับให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ให้ได้รับสิทธิการรักษาตามระบบปกติ เนื่องจากความรุนแรงของโรคลดลง ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักที่สถานพยาบาล โดยคาดว่าจะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรองรับสิทธิการรักษาของผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงเดือน มี.ค.2565
แต่ขณะนี้ พบว่ามีสถานพยาบาลเอกชนบางแห่งมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยโควิด-19 หรือญาติ นั้น
นพ.ธเรศ ย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 แต่อย่างใด
หากสถานพยาบาลเอกชนเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยโควิด หรือญาติ ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกประกาศฉบับเดิม ถือว่ากระทำผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541
ผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการเปลี่ยนแปลง หรือออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับใหม่นั้น นพ.ธเรศ ระบุว่า จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกับกองทุนสุขภาพทั้ง 4 กองทุน ประกอบด้วย กรมบัญชีกลาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาลตามสิทธิผู้ป่วย และสถานพยาบาลภาครัฐ ในการรองรับผู้ป่วยตามสิทธิ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาไร้สิทธิหรือสถานะได้อย่างเต็มศักยภาพ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการจัดทำ UCEP Plus เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งจะกำหนดให้ผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉินวิกฤตเข้าข่ายสีเหลือง หรือสีแดง เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจซึ่งต้องใช้ออกซิเจน หรือผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาใน ICU สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลทุกแห่ง ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือสีเขียว จะสนับสนุนให้รักษาแบบกักตัวอยู่ที่พัก กักตัวในชุมชน หรือสถานที่กักตัวในโรงแรม
อ่านข่าวอื่นๆ
เช็ก 6 วิธี ป้องกันโควิดบนรถรับ-ส่งนักเรียน
บอร์ด สปสช.อนุมัติแจก ATK รอบ 2 ให้คนทุกสิทธิที่เสี่ยงโควิด-19
"หมอธีระ" ระบุโควิดไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ เสี่ยงปัญหาจิตเวชมากกว่า 1.43 เท่า