วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดวันหนึ่ง มันเป็นเรื่องค้างคา เป็นความทุกข์ที่สร้างความเครียดเรื่องหนึ่งในชีวิต นับแต่ต้องหนีออกจากไทย จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 6 ปี 3 เดือน 3 วัน จากการปฏิบัติหน้าที่และถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม
พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หัวหน้าทีมสืบสวนคดีค้ามนุษย์ เปิดใจครั้งแรกผ่านวีดีโอคอล ที่มีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมกันแถลง “กว่าจะเป็นตั๋วช้างภาค 2”
ถือเป็นการเปิดใจผ่านการแถลงข่าวครั้งแรกในรอบ 6 ปีเศษหลังจากต้องลี้ภัยออกจากประเทศไทยไปเมื่อปี 2558 โดยการหยิบประเด็นนี้ในวงประชุมอภิปรายทั่วไปเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) ทำให้เรื่องราวของพล.ต.อ.ปวีณ และปมการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ตนมีความสุข มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ติดอยู่ในใจ มันเครียด กลัว นับจากที่ตนออกจากประเทศไทย จากการที่ตนปฏิบัติหน้าที่แล้วถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รัฐบาล รวมทั้งผู้มีอำนาจ
เรื่องราวทั้งหมดได้รับการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาให้คนได้รับทราบในการอภิปรายจากนายรังสิมันต์ ขอยืนยันว่า คือความจริงที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ พล.ต.ต. เปรียบเทียบประสบการณ์การลี้ภัยว่าเหมือนผู้ที่หนีภัยสงคราม ต้องมาเรียนภาษาและทำงานหาเลี้ยงชีพเหมือนคนทั่วไป เหมือนชาวซีเรีย เลบานอน เหมือนคนอีรัก เหมือนคนพม่า เมื่อเรียนแล้วก็ต้องทำงานหางานเลี้ยงชีพ ไม่รู้ตัวมาก่อน ไม่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ ภาษาก็ไม่ได้ ทรัพย์สินก็ไม่มีอะไร วันนี้จึงเป็นการพิสูจน์หักล้างเรื่องการวางแผนว่า จะมาอยู่ต่างประเทศตามที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด
อ่านข่าวเพิ่ม "โรม" เปิดแผลเก่ากลางสภาฯ "ขบวนการค้ามนุษย์" ภาคใต้
ถึงวันนี้ตนถือว่าได้รับความเป็นธรรมกลับมา แต่ครึ่งหนึ่งหายไป น่าเสียดายที่วันนั้น ถ้าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่ตรงไปตรงมา มีนายรัฐมนตรี และผู้บริหารทุกระดับที่อยากให้ประเทศไทยใสสะอาด มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรม และสุดทาง
ชีวิตราชการของผมที่เหลืออยู่ถึง 3 ปี ประกอบกับความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวน มั่นใจว่าจะสามารถสาวไปถึงปลาตัวใหญ่ได้อีกหลายตัวอย่างแน่นอน แต่ถ้าใหญ่แค่ไหนให้ไปคิดเอง
ชี้ขบวนการค้ามนุษย์ในไทยมีจริง
เมื่อน.ส.พรรณิการ์ ถามว่าที่นายรังสิมันต์ อภิปรายเมื่อวานนี้ เห็นท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีอะไรอยากฝากถึง รวมทั้งข้าราชการตำรวจหรือไม่มีอะไรจะฝากไปยังรัฐบาล พี่น้องตำรวจหรือไม่ พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า
ระยะเวลา 6 ปีที่มีต่อผู้นำประเทศ ในความรู้สึก คือไม่ความรู้สึกที่จะฝากอะไรไปถึงบุคคลเหล่านี้
พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า สิ่งใดที่จะฝากเพื่อน ในอาชีพเดียวกับตัวเองที่อาจต้องพบกับระบบที่เลวร้ายที่ตัวเองเคยเจอ และตอนนี้อาจจะยังเหมือนเดิม หรืออาจเลวร้ายกว่า อยากให้ตระหนักในการหน้าที่ทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ของบุคคลใด คนที่มีอำนาจคนใดคนหนึ่ง และให้ยึดหลักฎหมายที่ตัวเองเคยยึดถือมา
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ปวีณ ยืนยันว่าการที่คนโรฮิงญาเข้ามาไม่ใช่คนเดียว เพราะตัวเองกว่าจะเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย ยังถูกสอบสวนแบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็นใครต้องทำตามกฎเขา ประเทศไทย เมื่อประกาศตัวเป็นประเทศที่มีมาตรฐาน ก็จะต้องทำให้ไม่ด้อยกว่าออสเตรเลีย ใครเข้ามาต้องถูกสกรีน แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย การปล่อยปละละเลยก็ต้ องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนนั่นคือผลประโยชน์ ส่วย พอเงินนี้เข้ามาจำนวนมากๆ ก็ขนคนได้สะดวกทำกันเป็นอุตสาหกรรมขนคนไปขาย ดังนั้น จึงกล้าพูดว่าถ้าสอบสวนไปแน่นอนปลาตัวใหญ่ๆ จะต้องมาอีกเยอะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"นักเลงข้างถนน-อำมหิต" วาทะนายกฯ-โรม ยอมวอล์กเอาต์