วันนี้ (28 ก.พ.2565) "สุชาวดี หลิน" แรงงานไทยในยูเครน เล่าถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ประเทศยูเครนในห้องเช่า บนอาคารที่พักในตัวเมืองคาร์คีฟ ที่ทางร้าน "ออร่าสปา" ซึ่งได้เช่าให้พนักงาน 5 คน ประกอบด้วย ชาวกำแพงเพชร 1 คน, เชียงใหม่ 2 คน, ขอนแก่น 1 คน และอุดรธานี 1 คน
สุชาวดี เล่าว่า ทุกคนปลอดภัย แต่ไม่ได้ออกไปข้างนอกหลายวันแล้ว เพราะกลัวและอยากกลับบ้าน พร้อมบอกว่า ช่วงทหารรัสเซียจะบุกเข้าเมืองคาร์คีฟ มีการยิงต่อสู้ด้วยจรวดและปืนใหญ่ และขณะที่ยึดเมืองได้และเคลื่อนทัพทหารและรถถังผ่านไปแล้ว มีเสียงปืนบ้างบางครั้ง
ยังดีอยู่ค่ะ ตอนนี้ไม่ถึงกับว่าร้ายแรง ไม่ถึงกับยิงตึกถล่ม แต่ก็มีเสียงปืนทุกวัน เมื่อวานก็ถี่หน่อย วันนี้ประมาณตีสี่กว่าๆ มีเสียงปืนยิง
เมื่อถามว่าอยากกลับบ้านหรือไม่ สุชาวดี ก็ตอบทันทีว่า อยากกลับบ้านมาก ทุกคนอยากกลับบ้าน เพราะรู้สึกว่ามีแต่ความเสี่ยง อยู่รอไปก็เสี่ยง ไม่รู้จะยุติลงเมื่อไหร่ สถานเอกอัครราชทูตติดต่อให้เดินทางไปเมืองละวีฟโดยต้องนั่งรถไฟไป แล้วเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ยังหารถไม่ได้ เพราะระยะทางไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตร
ขณะที่ ว่าที่ร้อยโทอนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี นำเจ้าหน้าที่เข้าให้กำลังใจกับญาติแรงงานไทยในประเทศยูเครน ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ทั้งหมด 7 คน และยังไม่ทราบว่าทั้ง 7 คน ทำงานอยู่ที่เมืองไหนบ้างในประเทศยูเครน ทราบเพียงว่าส่วนหนึ่งได้อพยพมาอยู่ในพื้นที่ชายแดนของประเทศโปแลนด์แล้ว
มีบางส่วนที่ย้ายมาอยู่จุดที่ทางการไทยเตรียมการรองรับไว้ที่เมืองลวีฟ ประเทศยูเครน แต่แรงงานบางส่วนยังไม่สามารถเดินทางออกจากเมืองที่ตนเองทำงานอยู่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ในประเทศยูเครนจะเป็นผู้หญิง เพราะงานที่ไปทำส่วนใหญ่เป็นงานนวดและสปา
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ กำลังหาวิธีพาแรงงานไทยทั้งหมดกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด และเร่งหาทางพาแรงงานชาวไทยที่ติดค้างอยู่ที่เมืองคาร์คีฟ 12 คน ออกมาอยู่พื้นที่ปลอดภัย