วันนี้ (1 มี.ค.2565) สำนักข่าว AP รายงานว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ประกาศว่า รัฐบาลออกคำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เนื่องจากน้ำมันเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับรัสเซียมากกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด การบังคับใช้มาตรการนี้เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับการกระทำอันโหดร้ายไม่อาจหนีพ้นผลกระทบที่ตามมา
นอกจากนี้ แคนาดายังสนับสนุนระบบอาวุธต่อต้านรถถังและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับยูเครน เพื่อต้านกองกำลังของรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเกราะ หมวก หน้ากากป้องกันแก๊ส และกล้องมองกลางคืน เป็นต้น
ขณะที่เกาหลีใต้และสิงคโปร์ เป็นประเทศล่าสุดในเอเชียที่ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย โดยเกาหลีใต้ห้ามการส่งออกสินค้าหลายชนิดให้กับรัสเซีย ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์ด้านไอทีและโทรคมนาคม อุปกรณ์เซ็นเซอร์ เลเซอร์ รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับยานอวกาศและทางทะเล พร้อมกล่าวประณามรัสเซียที่ใช้กำลังบุกยูเครน
สิงคโปร์ ประกาศจะใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เหมาะสมและข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและควบคุมการส่งออกสินค้าบางอย่าง ที่อาจจะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธปราบปรามชาวยูเครน ในขณะที่อินโดนีเซียเป็นประเทศแรกของอาเซียนที่ออกมาประณามรัสเซีย ส่วนประเทศที่เหลืออย่างกัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย มีเพียงการแสดงความกังวลและเรียกร้องให้เปิดการเจรจา
ส่วนญี่ปุ่น ระบุว่าจะทำงานร่วมกับประชาคมโลก เพื่อลงโทษรัสเซียให้เกิดผลกระทบรุนแรงที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของปูตินและผู้นำระดับสูงของรัสเซีย
แม้แต่ประเทศที่เป็นกลางอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ ได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรปใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้วยการห้ามเครื่องบินของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้า และสั่งอายัพทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับ 363 คน และของหน่วยงานอีก 4 แห่ง นอกจากนี้ยังขยายมาตรการคว่ำบาตรที่เดิมบังคับใช้ในแคว้นไครเมีย ขยายไปที่ลูฮันสค์และโดเนทสค์ด้วย และสนับสนุนให้ตัดรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก พร้อมกล่าวว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการโจมตีอธิปไตย เสรีภาพ ประชาธิปไตย ประชาชนและสถาบันของประเทศเสรี
อ่านข่าวอื่นๆ
สหรัฐฯ ขับ 12 นักการทูตรัสเซียพ้นประเทศ-ขู่คว่ำบาตรหนักขึ้น
"ฟีฟ่า-ยูฟ่า" ยกระดับแบนรัสเซียจากการแข่งขันทุกรายการ
ชาวรัสเซียแห่ถอนเงินสด กังวลถูกรุมคว่ำบาตร