วันนี้ (8 มี.ค.2565) นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและยูเครนค่อนข้างน้อย และในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด
ประกอบกับมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมืองในอนาคต ทำให้เห็น Fund Flow จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
โดยในเดือน ก.พ.2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 61,336 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.2565 SET Index ปิดที่ 1,685.18 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วนภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ก.พ.2565 SET Index ปิดที่ 1,685.18 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในอาเซียน
SET Index ใน 2 เดือนแรกปี 2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มการเงิน
ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี
ทั้งนี้ ในเดือน ก.พ.2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 99,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.0% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คิดเป็น 42.80% ของมูลค่าการซื้อขายรวม
ซึ่งเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ.2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่ 3 โดยในเดือน ก.พ.2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 61,336 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี
ในเดือน ก.พ.2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 1 บริษัท คือ บมจ. พีซแอนด์ลีฟวิ่ง (PEACE) และใน mai 1 บริษัท คือ บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC)
ผลตอบแทน 2.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย
Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ก.พ.2565 อยู่ที่ระดับ 18.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 13.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ก.พ.2565 อยู่ที่ระดับ 2.64%
สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ 2.36%
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือน ก.พ.2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 614,587 สัญญา เพิ่มขึ้น 8.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures