วันนี้ (9 มี.ค.2565) นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย มีผลระงับการทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางชนิด ก๊าซธรรมชาติเหลว และถ่านหินในทันที ส่วนสัญญาซื้อขายที่ทำกันไว้ก่อนหน้านี้ ต้องลดปริมาณลงภายใน 45 วัน รวมทั้งบริษัทและนักลงทุนสหรัฐฯ ห้ามลงทุนในภาคพลังงานของรัสเซีย และชาวอเมริกันห้ามเข้าไปมีส่วนในการลงทุนในต่างชาติ ที่เข้าไปข้องเกี่ยวกับภาคการพลังงานของรัสเซียด้วย
ไบเดน ระบุว่า ท่าทีนี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยืนหยัดต่อต้านการทำสงครามของปูติน เพราะการไม่นำเข้าพลังงานจากรัสเซียก็เท่ากับไม่นำเงินไปหนุนระบบเศรษฐกิจและหนุนการทำสงคราม แต่ก็เตือนว่าชาวอเมริกันจะได้รับผลกระทบน้ำมันแพงขึ้นแน่นอน จากปัจจุบันที่ราคาสูงอยู่แล้ว
ส่วนยุโรปจะคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียด้วยหรือไม่ ไบเดนระบุว่า ไม่ได้คาดหวังและไม่ได้ขอให้ยุโรปดำเนินการตามด้วย เพราะสหรัฐฯ มีกำลังการผลิตในประเทศมากกว่า อีกทั้งมีสัดส่วนการนำเข้า พึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียน้อยกว่ายุโรป
สถิติเฉลี่ยของปีที่แล้ว สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปอื่น ๆ จากรัสเซีย เดือนละประมาณ 20.4 ล้านบาร์เรล หรือประมาณ 8% ของการนำเข้าเชื้อเพลิงเหลวทั้งหมด
ส่วนอังกฤษประกาศเดินหน้าลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน โดยจะค่อย ๆ ปรับลด ให้คนและตลาดได้ปรับตัว ภาครัฐจะหันไปร่วมมือกับผู้ผลิตอื่น ๆ ทั้งสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ ประเทศในตะวันออกกลางเพื่อนำเข้าเชื้อเพลิงทดแทน ท่าทีนี้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้นำยูเครน