วันที่ 16 มี.ค.2565 ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หมอปลา-นายจีรพันธ์ เพชรขาว ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ นายกฤษฎา โลหิตดี-ทนายโนบิตะ และ เฮียเปี๊ยก ภานุมาศ จิตรวศิรกุล พร้อม นางนภา (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่อ้างว่า ถูกขบวนการหลอกลวงเงิน วิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ระดับผู้กำกับการ ได้ และหลอกขายรางวัลดีเด่นต่างๆ โดยมีบุคคลที่อ้างเป็นหม่อมหลวง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม แม้จะมีหมายจับ แต่ก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้มอบรางวัลดังกล่าวอยู่ทุกปี
น.ส.นภา เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับ นางปฏิญาพร (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊โหน่ง จากกลุ่มเพื่อนของสามี และได้ไปทำบุญร่วมกับเจ๊โหน่งหลายครั้ง จนสนิทสนมกันมากขึ้น เจ๊โหน่งจึงทราบว่า สามีของตนรับราชการตำรวจ และในระหว่างนั้น เจ๊โหน่งได้ขอให้ทางครอบครัวของตนช่วยทำบุญกฐิน เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ซึ่งตนได้โอนเงินไปร่วมทำบุญด้วย
หลังจากนั้นเจ๊โหน่งนัดสามีของตน มาที่ร้านอาหารส้มตำเจ๊ญา พบกับ นางอณัญญา (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊ญา และ ม.ล.จรัลพงษ์ หรือ หม่อมแฟรงค์ โดยเจ๊โหน่งได้แนะนำว่า ทั้งสองคนรู้จักนักการเมือง และตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถช่วยเหลือให้สามีของตนเลื่อนตำแหน่ง จากรองผู้กำกับการ เป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจได้ แต่ก็ต้องจ่ายเงิน
น.ส.นภากล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้โอนเงินไปหลายครั้ง รวมจำนวน 5,750,000 บาท แต่เมื่อผลการแต่งตั้งออกมา ปรากฏว่าสามีของตนยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง ตนจึงขอเงินคืน ซึ่งทางเจ๊โหน่งกับหม่อมแฟรงค์อ้างว่าได้ให้เงินเจ๊ญาไปแล้ว ตนจึงทวงถามเจ๊ญา ซึ่งเจ๊ญาก็คืนเงินให้มาเพียงบางส่วน ขณะนี้ตนเดือดร้อนอย่างมาก เพราะต้องกู้เงินมา ตนเชื่อว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นขบวนการ และคิดว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลักษณะนี้อีกหลายราย
ขณะที่ นายกฤษฎา หรือ ทนายโนบิตะ เปิดเผยว่า ลักษณะของขบวนการนี้คือมีการตีสนิทเข้ามาชักชวนให้ทำบุญงานกฐิน ซึ่งหนึ่งในขบวนการมีบุคคลที่เป็นหม่อมหลวง โดยขบวนการมักจะนัดหมายเหยื่อให้มาที่ร้านอาหารของขบวนการ และจะโน้มน้าวชักจูงเหยื่อ โดยอ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียงในสังคม เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ และโอนเงินให้ ซึ่งครั้งแรกเหยื่อโอนเงินไปจำนวน 3,000,000 บาท จากนั้นขบวนการจะอ้างว่า มีผู้ที่ต้องการตำแหน่งหลายคน เพื่อให้เหยื่อจ่ายเงินเพิ่ม
นายภาณุมาศ หรือ เฮียเปี๊ยก เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายอื่นๆ มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองสารวัตร ไปจนถึงรองผู้กำกับ รวมถึงข้าราชการครูถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน โดยข้าราชการครูส่วนใหญ่มักถูกหลอกลวงว่าจะได้รับมอบรางวัล รวมถึงได้ลงหนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่ร้องเรียนมายังตนประมาณ 8 ราย รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ด้านทนายไพศาล กล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กัน อ้างว่ามีการแจกรางวัลให้กับบุคคลต่างๆ จากนี้จะทำการขยายผลเพิ่มเติม จึงอยากฝากไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตรวจสอบ ว่ามีขบวนการดังกล่าว รวมถึงมีบุคคลสำคัญต่างๆ ที่มีส่วนรู้เห็นตามคำกล่าวอ้างจริงหรือไม่ โดยในวันนี้จะให้ทางกองบังคับการปราบปรามทำการตรวจสอบ
โดยทั้งหมดได้เข้าร้อง ผบก.ป. ผ่าน พ.ต.อ.เทวินทร์ ขุนแก้ว ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นมอบให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทันที