ตั้งรางวัลนำจับ "รถเก๋ง" ขับรถย้อนศรถนนเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี

วันนี้ (21 มี.ค.2565) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เปมพ่อน้องปริมกะน้องปุญญ์ ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถมาโพสต์ ลงในเฟซบุ๊ก เพจคนเมืองกาญจน์ 2 พร้อมระบุข้อความ ตามหาคนขับรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง ที่ขับรถย้อนศรชิดขวา มาด้วยความเร็วช่วงกลางดึกเหตุ บนถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ช่วงระหว่างบริเวณหน้าทางเข้าโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ มุ่งหน้าสามแยกท่าล้อ จ.กาญจนบุรี

ซึ่งหลังจากมีการโพสคลิปดังกล่าวไม่นาน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งนำคลิปจากกล้องหน้ารถอีกคัน ซึ่งเผชิญกับเหตุการณ์ ที่รถเก๋งคันดังกล่าวขับย้อนศรเลนขวาพุ่งเข้าหาเช่นกันเจ้าของรถ จึงต้องตัดสินใจหักหลบกะทันหัน จนเกือบประสบอุบัติเหตุ

โดยเจ้าของคลิประบุว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจุดที่เจอรถเก๋งคันดังกล่าวย้อนศรมานั้น เมื่อรวมระยะทางจากรถคันแรก มายังคันที่ 2 เป็นระยะทางไกลกว่าครึ่งกิโลเมตร นอกจากนี้ 1 ในผู้โพสต์ยังมีการตั้งรางวัล ให้กับผู้ที่รู้เบาะแสรถดังกล่าวด้วย

นายภาณุพงศ์ เชื้อทอง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของคลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถ บอกว่า ถนนสายนี้มีจุดกลับรถเพียงจุดเดียว เป็นไปได้ว่าคนขับไม่ต้องการไปกลับรถไกล จึงตัดสินใจขับรถย้อนศรมาตามที่ปรากฏในคลิป แต่ก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ กับคนที่ขับรถมาตามเส้นทางตามปกติ 

ขับรถย้อนศร มีความผิดโทษจำคุก-ปรับ

สำหรับการขับรถย้อนศร นั้น จากข้อมูลของพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 41 ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ทางเดินรถใดที่มีเครื่องหมายจราจรให้เป็นเดินรถทางเดียว ให้ผู้ขับขี่ขับรถไปตามทิศทางที่ได้กำหนดไว้ หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

นอกจากนี้การขับรถย้อนศรยังเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตราที่ 43 วรรค 8 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของคนอื่น ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ