เมื่อวันที่ (21 มี.ค.2565) ที่ผ่านมา เครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เปิดแถลงข่าว ถึงปัญหาการส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ ที่มีปัญหายืดเยื้อมากว่า 3 ปี 7 เดือน แม้ก่อนหน้านี้ประธานศาลฎีกา จะให้ข่าวว่าได้ส่งมอบคืนพื้นที่ แต่ติดปัญหาที่กรมธนารักษ์ในการรับมอบคืน
ขณะที่ภาพล่าสุดบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 อาคาร ที่ตั้งเชิงดอยสุเทพตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเริ่มมีต้นไม้ขึ้น แต่ยังเห็นอาคาร
ส่วนการก่อสร้างอาคารที่ทำการและบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จะย้ายไป จ.เชียงราย โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.2562 กำหนดแล้วเสร็จ 7 ก.ย.นี้ พบว่า งานคืบหน้าเพียงร้อยละ 10 มีคนงานและเครื่องจักรเข้าไปทำการก่อสร้างบางส่วน
ทั้งนี้ วันที่ 29 เม.ย.2558 ชาวเชียงใหม่ได้ออกมาคัดค้านและขอให้รื้อและคืนพื้นที่ โครงการบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ของศาลอุทธรณ์ภาค 5
ต่อมา วันที่ 16 ก.ย.2563 ประธานศาลฎีกาได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า มีการคืนพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปลายปีเดียวกันกลับพบปัญหา กรมธนารักษ์ ไม่ยอมรับมอบอาคารและพื้นที่ โดยระบุว่า ไม่มีกฎหมายรองรับครุภัณฑ์ในบ้านพัก เช่น แอร์ เฟอร์นิเจอร์
กระทั่งกลางปี 2564 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลาง ในที่สุดกรมบัญชีกลางได้มีหนังสือให้กรมธนารักษ์ รับมอบอาคารพร้อมครุภัณฑ์ และบ้านพักได้ แต่ล่าสุดยังไม่มีการส่งมอบแต่อย่างใด
นายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่
ด้านนายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ ระบุว่า ปกติดูแลเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บ้านพัก 45 หลัง ของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่มีปัญหา มีครุภัณฑ์ด้วย เช่น แอร์ เตียงนอน ฯลฯ ซึ่งต้องส่งให้ กรมธนารักษ์ตีความ หรือ หากกฎหมายใกล้เคียงรับมอบจากศาลได้หรือไม่ ?
นายกรจักร ยังกล่าวว่า ไม่ได้ยื้อเวลา คาดว่า เรื่องดังกล่าวจะจบโดยใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้บ้านพักทั้ง 45 หลัง พร้อมรับตั้งนานแล้วแต่ติดปัญหาครุภัณฑ์ดังกล่าว ถ้าส่งมอบเสร็จที่ดินจำนวน 85 ไร่เศษ จะส่งคืนให้กองทัพบก โดยไม่มีการทุบทิ้ง หรือ รื้ออาคาร
ขณะที่นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จะเร่งปลูกป่าคงสภาพป่าให้เร็วที่สุด