วันนี้ (28 มี.ค.2565) เวลา 19.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แถลงเปิดตัวเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามผู้สมัครอิสระ พร้อมเปิดตัวทีมงานคนสองรุ่นมาช่วยผนึกกำลังอาสาเข้ามาสานต่อและแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้คนกรุงเทพฯ
พล.ต.อ.อัศวิน ยังยอมรับว่า บางปัญหาจะแก้ไขได้ ต้องใช้เวลาและการทำงานอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ตนจึงขออาสาประชาชนชาวกรุงเทพฯ เข้ามาทำงานสานต่อนโยบายต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้ “กรุงเทพฯต้องไปต่อ” ให้กรุงเทพฯ “เป็นสังคมปลอดภัย สงบสุข ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี” เติมเต็มความหวังให้กับชาวกรุงเทพมหานคร
ชูนโยบาย 8 ด้าน กรุงเทพต้องไปต่อ
โดยให้ความหมายของการไปต่อ คือ “ไปต่อจากที่ทำไว้แล้ว ” เป็นนโยบายหลัก 8 ด้าน ได้แก่
1.ไปต่อ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่ลดลง ซึ่งลดไปแล้วจาก 24 จุด เหลือ 9 จุด และจะลดต่อ ด้วยวิธีที่ตนมีประสบการณ์
2.ไปต่อ เพื่อสร้างความสะดวกในทุกการเดินทาง เพราะอยากเห็น “คนกรุงเทพฯ คนเดินเท้าปลอดภัย ระบบขนส่งมวลชนสะดวกและสร้างความเชื่อมโยง
3.ไปต่อ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับ “คนเมือง” และระบบการรักษาที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” มีที่รักษาพยาบาลใกล้บ้านและครอบคลุมทุกพื้นที่ ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม
4. ไปต่อ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมเมืองที่ดี เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ” เพิ่มพื้นที่สีเขียว จัดการขยะที่ต้นทาง มีคลองสวยน้ำใส
5.ไปต่อ เพื่อทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เพราะอยากเห็น “ลูกหลานและคนกรุงเทพฯ” มีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งกายและใจในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้น จะได้รับการศึกษาทั้งทักษะอาชีพและความรู้พร้อมกันไป
6.ไปต่อ เพื่อเติมเต็มความปลอดภัยให้กับคนเมือง เพราะอยากเห็น “เมืองกรุงเทพฯ มีอาชญากรรมลดลง และมีการเตรียมพร้อมขจัดภัยพิบัติ
7.ไปต่อ เพื่อเชื่อมกรุงเทพฯ สู่เมืองดิจิทัล เพราะอยากเห็น “คนกรุงเทพฯ” ได้รับบริการจากหน่วยงานราชการของกรุงเทพฯ ที่โปร่งใสเชื่อมโยงและรวดเร็ว
8.ไปต่อ เพื่อดูแลคนทุกกลุ่มทุกวัย เพราะอยากเห็นบริการและสวัสดิการชุมชนทั่วถึง
พล.ต.อ.อัศวิน ยังย้ำด้วยว่า จะก้าวต่อไป พร้อมกับคนรุ่นใหม่ จากหลายสาขาอาชีพ รวมถึงผู้พิการ ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ใช่แค่การร่วมทำ แต่จะมาช่วยร่วมคิดสร้างนโยบาย ร่วมกับคนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ โดยจะเรียกคนเหล่านี้ว่า “คนลุยเมือง” ร่วมงานพัฒนากรุงเทพฯ ในด้านต่าง ๆ
-ด้านคมนาคม นายจิรวัฒน์ จังหวัด (ร่วมออกแบบ รถ BMV Feeder และเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพ)
-ด้านการศึกษา น.ส.ณภัทร วัชราภรณ์ (ที่ปรึกษานโยบายสาธารณะ และ นักศึกษาปริญญาเอก)
-ด้านกีฬาและกิจกรรมเยาวชน น.ส.ปุณยวีร์ ประดิษฐ์พงศ์ (ผลักดันสนามสเกตสวนรถไฟ)
-ด้าน Universal design สิทธิผู้พิการ นายสว่าง ศรีสม (นักเคลื่อนไหวด้านการเข้าถึงของคนทั้งมวล)
-ด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ น.ส.บวรลักษณ์ ทองมาก (นักวิจัยด้านนโยบายสาธารณะ)
-ด้านบริการสาธารณสุข น.ส.ชมพูนุท พันธศรี (หนึ่งในผู้ผลักดันรถ BMV)
-ด้านชุมชนเข้มแข็ง นายธวัช ศรีวัฒนะ (นักชุมชน/ ผู้สมัคร ส.ก. รักษ์กรุงเทพ)
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรคไทยภักดี ได้ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวด้วย โดยมารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งให้ พล.ต.อ.อัศวิน ส่วนนายถาวร เสนเนียม ที่มีรายงานข่าวว่า จะมาเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้งยังไม่ปรากฏตัวในงานนี้
ทั้งนี้ เป็นที่จับตามองว่า กำลังหนุนที่อยู่เบื้องหลัง พล.ต.อ.อัศวิน มีผลอย่างยิ่งต่อการช่วงชิงคะแนนนิยมของชาวกรุงเทพ โดยเฉพาะกลุ่มคนรัก พล.อ.ประุยทธ์ และ กลุ่ม กปปส. ซึ่งเป็นฐานคะแนนเดียวกับสกลธี อดีตรองผู้ว่าฯ ที่ลาออกมาสู้ศึกผู้ว่าฯ กทม.ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“วิโรจน์” เปิด 12 นโยบาย เดินหน้าเสนอตัวเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ส่องรายชื่อว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
ส่องนโยบาย "ชัชชาติ" สู้ศึกเลือกตั้ง "ผู้ว่าฯ กทม."