วันนี้ (30 มี.ค.2565) รัฐบาลของประเทศไอร์แลนด์, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก ได้ประกาศคำสั่งเนรเทศทูตรัสเซีย รวม 43 คน ออกจากประเทศ อ้างว่า ต้องสงสัยปฏิบัติการเป็นสายลับ
รัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยียม เปิดเผยว่า เบลเยียมสั่งขับนักการทูต 21 คน จากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงบรัสเซลส์ และสถานกงสุลรัสเซียในเมืองแอนต์เวิร์ป โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ เพื่อเดินทางออกจากเบลเยียม
ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเนเธอร์แลนด์ ที่ขับนักการทูตรัสเซีย 17 คนออกจากประเทศ หลังถูกพิจารณาว่ากำลังดำเนินกิจกรรมลับๆ ในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง
ด้านนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ระบุเช่นกันว่า รัฐบาลได้ขับนักการทูต 4 คน จากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงดับลิน หลังได้รับข้อมูลคำแนะนำจากหน่วยข่าวกรอง เนื่องจากมีการดำเนินกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของพฤติกรรมทางการทูต
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณรัฐเช็ก เปิดเผยว่า ได้ขับอัครราชทูตรัสเซีย 1 คนออกจากกรุงปรากเช่นกัน
ท่าทีเหล่านี้มีขึ้นหลังจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ ได้ดำเนินการขับนักการทูตรัสเซียออกจากประเทศตัวเอง รวมถึงโปแลนด์ที่สั่งขับนักการทูตรัสเซียออกจากประเทศไป 45 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่รัสเซียแสดงท่าทีตอบโต้ด้วยวิธีการคล้ายกัน โดยออกประกาศขับนักการทูต 10 คนจากเอสโตเนีย ลัตเวียและลิทัวเนียออกนอกรัสเซียแล้ว
อีกด้านหนึ่งนักการทูตยูเครนในกรุงนิวเดลีของอินเดียและนักปีนเขาอีกหลายคนส่งคำร้องถึงรัฐบาลเนปาลให้ประกาศห้ามไม่ให้นักปีนเขาจากรัสเซีย 9 คน ขึ้นพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ในเทือกเขาหิมาลัย
ขณะที่รัฐบาลเนปาลได้ออกมาปฏิเสธคำร้องดังกล่าว พร้อมระบุว่าจะอนุญาตต่อไปเพราะเชื่อว่าเทือกเขาหิมาลัยเป็นสมบัติของโลก และประชากรของทุกประเทศทั่วโลกย่อมได้รับการอนุญาตให้ท่องเที่ยวและปีนเขาได้ตราบเท่าที่ยังปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ที่มา : BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจรจาคืบหน้า! รัสเซียประกาศ "ลดกิจกรรมทางทหาร" ในเคียฟ-เชอร์นิฮิฟ
ตุรกีเชื่อเจรจา "รัสเซีย-ยูเครน" ปูทางหารือสุดยอด 2 ผู้นำ
สื่อรัสเซียเผยภาพ "มารีอูโพล" เสียหายหนัก คาดติดค้าง 1.6 แสนคน